เมนูปิด

 

เลขที่หนังสือ: กค 0811/ก.329
วันที่: 9 สิงหาคม 2544
เรื่อง: อากรแสตมป์ กรณีขอลดเงินเพิ่มอากรแสตมป์
ข้อกฎหมาย: กฎกระทรวง ฉบับที่ 129 (พ.ศ. 2512)ฯ
ข้อหารือ: สำนักงานสรรพากรภาค แจ้งว่า บริษัทฯ ได้ยื่นคำร้องขอลดเงินเพิ่มอากรแสตมป์
โดยมีข้อเท็จจริงดังนี้
1. บริษัทฯ ได้เซ็นสัญญารับจ้างกับการนิคมอุตสาหกรรม ค่าจ้างคิดเป็นร้อยละ 82 ของ
รายได้ที่การนิคมฯ เรียกเก็บจากลูกค้าเป็นระยะเวลา 5 ปี ซึ่งบริษัทฯ จะต้องชำระอากรภายใน 15
วัน หลังจากวันเซ็นสัญญา คือวันที่ 28 กันยายน 2543 แต่บริษัทฯ มิได้ดำเนินการติดอากรแสตมป์ตาม
ประมวลรัษฎากรแต่อย่างใด ต่อมาเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2544 บริษัทฯ ได้ยื่นแบบ อ.ส.4 เพื่อชำระ
อากรเป็นจำนวนเงิน 3,925,300 บาท และได้ยื่นคำร้องขอลดเงินเพิ่มอากรต่ออธิบดีกรมสรรพากร
ให้เหลือเรียกเก็บร้อยละ 1 ต่อเดือน
2. สำนักงานสรรพากรภาค เห็นว่า บริษัทฯ ได้ทำสัญญารับจ้างบริหารงานและให้บริการ
สาธารณูปโภคกับการนิคมอุตสาหกรรม เข้าลักษณะเป็นตราสารที่ต้องปิดอากรแสตมป์ภายใน 15 วัน
นับแต่วันต้องปิดแสตมป์บริบูรณ์ ตามมาตรา 113 แห่งประมวลรัษฎากร แต่เนื่องจากบริษัทฯ ได้ยื่น
ตราสารเพื่อเสียอากร (อ.ส.4) เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2544 ซึ่งเป็นการยื่นเสียอากรเกินกำหนดเวลา
15 วัน แต่ไม่เกิน 90 วันนับแต่วันต้องปิดแสตมป์บริบูรณ์ ทำให้บริษัทฯ ต้องรับผิดเสียเงินเพิ่มอากรเป็น
2 เท่าของจำนวนอากร แต่โดยเหตุที่บริษัทฯ ยินยอมชำระอากรด้วยตนเอง โดยมิได้ถูกประเมินประกอบ
กับบริษัทฯ สำคัญผิดในข้อกฎหมาย และมิได้มีเจตนาที่จะหลบเลี่ยงอากรแต่อย่างใด กรณีจึงมีเหตุอันควร
ลดเงินเพิ่มคงเหลือเรียกเก็บเพียงร้อยละ 1 ต่อเดือน หรือเศษของเดือนของเงินอากร ตามนัยข้อ 3
วรรคท้าย ของกฎกระทรวง ฉบับที่ 129 (พ.ศ. 2512) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วย
อากรแสตมป์และอากรมหรสพ จึงส่งเรื่องให้กรมสรรพากรพิจารณา
แนววินิจฉัย: อนุมัติให้บริษัทฯ เสียเงินเพิ่มอากรในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อเดือนหรือเศษของเดือนของ
เงินอากรโดยเริ่มนับแต่วันที่ต้องปิดแสตมป์บริบูรณ์ ตามข้อ 3 วรรคสอง แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 129
(พ.ศ. 2512)ฯ
เลขตู้: 64/30776


 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020