เมนูปิด

 

เลขที่หนังสือ: กค 0811/3738
วันที่: 23 เมษายน 2544
เรื่อง: ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้
ข้อกฎหมาย: พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 360) พ.ศ. 2542
ข้อหารือ: บริษัทฯ มีความประสงค์ที่จะโอนห้องชุดจำนวน 13 ห้อง ให้แก่บริษัทเงินทุนฯ เพื่อชำระหนี้
ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ซึ่งเป็นเงื่อนไขตามหลักเกณฑ์การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของ
สถาบันการเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด แต่เมื่อไปโอนห้องชุดเจ้าพนักงานที่ดินแจ้งว่า
สัญญาประนีประนอมยอมความไม่สามารถนำไปใช้เป็นหลักฐานเพื่อขอรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีใน
การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ บริษัทฯ จึงขอทราบว่าการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตาม
สัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรหรือไม่
แนววินิจฉัย: กรณีสถาบันการเงินฟ้องร้องลูกหนี้และมีการตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความ และศาลมี
คำพิพากษาตามที่โจทก์และจำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความ ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์การปรับปรุง
โครงสร้างหนี้ของสถาบันการเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ดังกล่าว
ย่อมได้รับสิทธิทางภาษีอากรตาม พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 360) พ.ศ. 2542 และกฎหมายอื่นที่
เกี่ยวข้อง
ดังนั้น กรณีตามข้อเท็จจริง หากเป็นการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตามหลักเกณฑ์ ดังกล่าวข้างต้น
การโอนห้องชุดจำนวน 13 ห้องชุด ย่อมได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรตาม พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับ
ที่ 360) พ.ศ. 2542 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
สำหรับหลักฐานที่จะใช้แสดงต่อเจ้าพนักงานที่ดินในการจดทะเบียนสิทธิและ นิติกรรม ให้ใช้
หนังสือรับรองการปรับปรุงโครงสร้างหนี้เพื่อขอรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร ตามประมวลรัษฎากร
และค่าธรรมเนียมตามประมวลกฎหมายที่ดิน โดยเอกสารที่จะใช้ประกอบกับการใช้สิทธิตามหนังสือ
ดังกล่าว ในข้อ 2 จะใช้เป็นหนังสือสัญญาหรือเอกสารอื่นใดก็ได้ที่แสดงว่าเป็นการปรับปรุงโครงสร้างหนี้
ของสถาบันการเงินตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
เลขตู้: 64/30411


 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020