เลขที่หนังสือ | : กค 0706(กม.01)/848 |
วันที่ | : 6 ตุลาคม 2547 |
เรื่อง | : การชำระภาษีเงินได้ของพนักงานรัฐวิสาหกิจ กรณีเงินได้จากโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด |
ข้อกฎหมาย | : มาตรา 40(1), ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 45)ฯ |
ข้อหารือ | : ด้วย นาย ก. ขอความเป็นธรรมเกี่ยวกับการชำระภาษีเงินได้ของพนักงานรัฐวิสาหกิจ กรณี เข้าร่วมโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนดหรือโครงการร่วมใจจากองค์กรมาให้กรมสรรพากรพิจารณา การเสียภาษีเงินได้ของพนักงานรัฐวิสาหกิจกรณีเกษียณอายุก่อนกำหนดหรือโครงการร่วมใจจากองค์กร และกรณีเกษียณอายุปกติ เมื่อไปยื่นเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปีกรมสรรพากรกำหนดให้ ข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจกรอกรายการเงินได้ในแบบ ภ.ง.ด.90 และ ภ.ง.ด.91 แตกต่างกัน โดยถือเป็นเงินได้พึงประเมินที่จ่ายให้ครั้งเดียวที่มีวิธีการคำนวณแตกต่างไปจากวิธีการคำนวณบำเหน็จ ตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการ เมื่อได้คำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา พนักงานรัฐวิสาหกิจจะต้องเสียภาษีสูงกว่าข้าราชการกรณีเงินได้เท่ากัน ดังนั้น จึงขอให้พิจารณาให้ พนักงานรัฐวิสาหกิจได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเช่นเดียวกับข้าราชการ |
แนววินิจฉัย | : กรณีเงินบำเหน็จปกติที่พนักงานสำนักงานฯ ได้รับเมื่อได้ทำงานเป็นเวลาต่อเนื่องกันมาจนมี อายุครบหกสิบปีบริบูรณ์แล้วและทำงานมาแล้วไม่น้อยกว่าสองปีบริบูรณ์ซึ่งเป็นกรณีเกษียณอายุทำงาน ตามปกติ ตามข้อ 5(1) ของข้อบังคับคณะกรรมการสงเคราะห์การทำสวนยาง ฉบับที่ 14 (พ.ศ. 2516)ฯ เมื่อพิจารณาวิธีการคำนวณเงินบำเหน็จพนักงานฯ ตามข้อบังคับดังกล่าว โดยให้คำนวณจาก เงินเดือนหรือค่าจ้างเดือนสุดท้ายคูณด้วยจำนวนปีเวลาทำงาน ตามข้อ 6 ของข้อบังคับดังกล่าว แต่ตาม ข้อ 4 ของข้อบังคับดังกล่าวกำหนดว่า เงินเดือนหรือค่าจ้างเดือนสุดท้าย หมายความว่า เงินเดือน หรือค่าจ้างที่พนักงานหรือลูกจ้างประจำจะได้รับในเดือนสุดท้ายก่อนพ้นหน้าที่ ทั้งนี้ ไม่รวมถึงเงินค่า ทำงานนอกเวลา แต่วิธีการคำนวณบำเหน็จบำนาญข้าราชการให้คำนวณจากเงินเดือนเดือนสุดท้ายโดยให้ หมายความรวมถึงเงินที่ได้เลื่อนไว้ในวันสุดท้ายของปีงบประมาณนั้นด้วย ตามมาตรา 31 วรรคหนึ่ง แห่ง พระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2494 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญ (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2516 (เอกสารแนบ 5) ดังนั้น จึงถือได้ว่าเงินบำเหน็จที่พนักงานได้รับเมื่อ เกษียณอายุการทำงานตามข้อบังคับดังกล่าวมิได้ใช้วิธีการคำนวณบำเหน็จตามหลักเกณฑ์และวิธีการคำนวณ บำเหน็จตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการได้ทั้งหมด เงินบำเหน็จดังกล่าวจึงถือเป็น เงินได้พึงประเมินที่นายจ้างจ่ายให้ครั้งเดียวเพราะเหตุออกจากงานที่มีวิธีการคำนวณแตกต่างไปจาก วิธีการตามข้อ 1(ก) จึงเป็นเงินได้พึงประเมิน ตามข้อ 1(ง) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 45)ฯ ซึ่งผู้มีเงินได้พึงประเมินดังกล่าวหากมีระยะเวลาทำงานไม่น้อยกว่า 5 ปีจะเลือกเสียภาษีแยกต่างหากจากเงินได้อื่นได้ตามมาตรา 48(5) แห่งประมวลรัษฎากร ตามข้อ 2 และข้อ 3 ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 45)ฯ กรณีพนักงานสำนักงานฯ ลาออกก่อนครบเกษียณอายุการทำงาน หากได้ทำงานมาแล้วไม่ น้อยกว่าสองปีบริบูรณ์จะได้รับเงินบำเหน็จปกติ ตามข้อ 5(4) ของข้อบังคับคณะกรรมการสงเคราะห์ การทำสวนยาง ฉบับที่ 14 (พ.ศ. 2516)ฯ เนื่องจากเงินบำเหน็จกรณีนี้มีวิธีการคำนวณตามข้อ 6 ของ ข้อบังคับดังกล่าวเช่นเดียวกับเงินบำเหน็จกรณีเกษียณอายุการทำงานตามปกติ ดังนั้น เงินบำเหน็จที่ พนักงานสำนักงานฯ ได้รับกรณีนี้ถือเป็นเงินได้พึงประเมินที่นายจ้างจ่ายให้ครั้งเดียวเพราะเหตุออกจาก งานที่มีวิธีการคำนวณแตกต่างไปจากวิธีการ ตามข้อ 1(ก) จึงเป็นเงินได้พึงประเมินตามข้อ 1(ง) ของ ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 45)ฯ ซึ่งผู้มีเงินได้พึงประเมินดังกล่าวหากมี ระยะเวลาทำงานไม่น้อยกว่า 5 ปีจะเลือกเสียภาษีแยกต่างหากจากเงินได้อื่นได้ตามมาตรา 48(5) แห่งประมวลรัษฎากร ตามข้อ 2 และข้อ 3 ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 45)ฯ นอกจากนี้ การลาออกก่อนครบเกษียณอายุการทำงานพนักงานสำนักงานฯ จะได้รับเงิน ตอบแทนพิเศษตามระเบียบของสำนักงานฯ โดยมติคณะรัฐมนตรีซึ่งมิได้เป็นไปตามกฎหมายอื่นใดดังเช่น เงินได้พึงประเมิน ตามข้อ 1(ก) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 45)ฯ และการคำนวณเงินตอบแทนพิเศษก็มิได้มีวิธีการคำนวณเช่นเดียวกับการคำนวณบำเหน็จตามกฎหมาย ว่าด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ เงินค่าตอบแทนพิเศษดังกล่าวจึงเป็นเงินได้พึงประเมินที่จ่ายให้ ครั้งเดียวเพราะเหตุออกจากงานที่มีวิธีการคำนวณแตกต่างไปจากวิธีการตามข้อ 1(ก) จึงเป็น เงินได้พึงประเมิน ตามข้อ 1(ง) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 45)ฯ ซึ่งผู้มีเงินได้พึงประเมินดังกล่าวหากมีระยะเวลาทำงานไม่น้อยกว่า 5 ปีจะเลือกเสียภาษีแยกต่างหาก จากเงินได้อื่นได้ตามมาตรา 48(5) แห่งประมวลรัษฎากร ตามข้อ 2 และข้อ 3 ของ ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 45)ฯ เนื่องจากเงินบำเหน็จและเงินตอบแทนพิเศษที่พนักงานสำนักงานฯ ได้รับกรณีเกษียณอายุ การทำงานและกรณีลาออกก่อนเกษียณอายุการทำงานตาม 1. และ 2. เป็นเงินได้พึงประเมิน ตามข้อ 1(ง) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 45)ฯ จึงไม่อาจพิจารณาให้ เงินบำเหน็จและเงินตอบแทนพิเศษที่สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางจ่ายให้แก่พนักงาน สำนักงานฯ เป็นเงินได้ที่คำนวณตามหลักเกณฑ์และวิธีการเช่นเดียวกับวิธีการคำนวณบำเหน็จตามกฎหมาย ว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ตามข้อ 1(ก) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 45)ฯ ได้ |
เลขตู้ | : 67/33164 |