ผู้ให้เช่า เจ้าของกรรมสิทธิ์อาคารพาณิชย์ ตกลงทำสัญญาให้บริษัทเช่าพื้นที่ดาดฟ้าบนอาคารพาณิชย์ของตนเพื่อติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าสำหรับใช้วัดกระแสไฟฟ้าของอุปกรณ์เสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือ โดยผู้ให้เช่าได้ส่งมอบการครอบครองพื้นที่ที่ให้เช่าแก่ผู้เช่า ผู้ให้เช่าจึงขอหารือว่าผู้ให้เช่าต้องนำเงินค่าเช่าพื้นที่ดาดฟ้าบนอาคารพาณิชย์ดังกล่าวมาเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหรือไม่อย่างไร และกรณีผู้ให้เช่าที่ดินว่างเปล่าของตนไปให้บริษัทเช่าเพื่อใช้ติดตั้งป้ายโฆษณาหรือเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ผู้ให้เช่าต้องนำมาคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในกรณีดังกล่าวหรือไม่ อย่างไร

          กรณีผู้ให้เช่าซึ่งเป็นบุคคลธรรมดามีเงินได้จากการให้เช่าพื้นที่ดาดฟ้าบนอาคารพาณิชย์หรือที่ดินว่างเปล่าเพื่อติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าสำหรับใช้วัดกระแสไฟฟ้าของอุปกรณ์เสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือ หรือเพื่อใช้ติดตั้งป้ายโฆษณาหรือเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ถือเป็นเงินได้จากการให้เช่าทรัพย์สิน เข้าลักษณะเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (5) (ก) แห่งประมวลรัษฎากร โดยสามารถคำนวณหักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมาได้ในอัตราร้อยละ 30 เว้นแต่กรณีมีหลักฐานและพิสูจน์ได้ว่ามีค่าใช้จ่ายมากกว่านั้น ก็สามารถหักค่าใช้จ่ายได้ตามความจำเป็นและสมควร โดยนำมาตรา 65 ทวิ และมาตรา 65 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร มาใช้บังคับโดยอนุโลม แต่หากหลักฐานที่นำมาพิสูจน์นั้น ปรากฏว่ามีรายจ่ายที่หักได้ตามกฎหมายน้อยกว่าอัตราค่าใช้จ่ายที่กำหนดไว้ ก็ให้ถือว่ามีค่าใช้จ่ายเพียงเท่าหลักฐานที่นำมาพิสูจน์ ทั้งนี้ ตามมาตรา 43 แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับมาตรา 5 แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการกำหนดค่าใช้จ่ายที่ยอมให้หักจากเงินได้พึงประเมิน (ฉบับที่ 11) พ.ศ. 2502