เมนูปิด
เลขที่หนังสือ : กค 0702/1062
วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2561
เรื่อง: การคำนวณเบี้ยปรับ เงินเพิ่ม กรณีวันสุดท้ายตรงกับวันหยุดราชการ
ข้อกฎหมาย: คำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป. 177/2545
ข้อหารือ

         ตามคำชี้แจงกรมสรรพากร เรื่อง การขอขยายกำหนดเวลาการยื่นแบบแสดงรายการภาษีผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ลงวันที่ 16 มีนาคม 2555 โดยขยายเวลาออกไปอีก 8 วันนับแต่วันพ้นกำหนดเวลายื่นแบบแสดงรายการภาษีตามที่กฎหมายกำหนด และข้อ 2 ของคำชี้แจงดังกล่าวกำหนดว่าผู้ที่ได้รับสิทธิขยายกำหนดเวลา จะต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษี (แบบฯ) ฉบับปกติและฉบับเพิ่มเติมผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเท่านั้น แต่ปัจจุบันระบบการยื่นแบบฯ ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ให้บริการเฉพาะการยื่นแบบยื่นแบบฯ ฉบับปกติและฉบับเพิ่มเติมภายในกำหนดเวลาเท่านั้น ดังนั้น หากผู้เสียภาษียื่นแบบฯ ฉบับปกติภายในกำหนดเวลา แต่ภายหลังพบว่ายื่นแบบฯ ผิดพลาดจึงประสงค์จะยื่นแบบฯ ฉบับเพิ่มเติม ซึ่งเกินกำหนดเวลายื่นแบบฯ ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เพื่อให้ได้รับสิทธิตามคำชี้แจงดังกล่าว แต่ไม่สามารถยื่นแบบฯ ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต บอ. จึงมีโครงการพัฒนาโปรแกรมการยื่นแบบฯ ฉบับเพิ่มเติม เกินกำหนดเวลาผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เสียภาษี โดยไม่ต้องไปยื่นแบบฯ ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา โดยมีเงื่อนไขว่าการยื่นแบบฯ ฉบับปกติของ เดือน/ปีภาษีนั้น ต้องยื่นผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตด้วย โดยระบบจะคำนวณเบี้ยปรับ และ/หรือเงินเพิ่ม ให้อัตโนมัติ พร้อมทั้งกำหนดวันสุดท้ายของการชำระภาษีให้ จึงมีประเด็นหารือว่า กรณีวันสุดท้ายของการยื่นแบบฯ ฉบับเพิ่มเติมตรงกับวันหยุดราชการ ผู้เสียภาษีสามารถไปชำระภาษีในวันเริ่มทำการใหม่โดยยังคงได้สิทธิชำระเบี้ยปรับ เงินเพิ่ม ในอัตราเดิมหรือไม่ เช่น
         ตัวอย่างที่ 1 ผู้เสียภาษียื่นแบบ ภ.พ.30 ฉบับปกติ สำหรับเดือนภาษีมกราคม 2556 ภายในกำหนดเวลา เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2556 (เนื่องจากวันที่ 23 – 25 เป็นวันหยุดราชการ) ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ต่อมาในวันที่ 20 มีนาคม 2556 ผู้เสียภาษียื่นแบบ ภ.พ. 30 เพิ่มเติมสำหรับเดือนภาษีมกราคม เพื่อปรับปรุงยอดขายที่แจ้งไว้ขาด ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ระบบจะคำนวณวันสุดท้าย ของการชำระภาษีคือ วันที่ 23 มีนาคม 2556 แต่เนื่องจากวันที่ 23 มีนาคม 2556 เป็นวันหยุดราชการ ระบบจึงต้องออกชุด การชำระเงินที่สามารถชำระได้ภายในวันที่ 25 มีนาคม 2556 ซึ่งเป็นวันเริ่มทำการใหม่ โดยคำนวณเงินเพิ่มเพียง 1 เดือน ถูกต้องหรือไม่
         ตัวอย่างที่ 2 ผู้เสียภาษียื่นแบบ ภ.พ.30 ฉบับปกติ สำหรับเดือนภาษีมกราคม 2556 ภายในกำหนดเวลา เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2556 (เนื่องจากวันที่ 23 – 25 เป็นวันหยุดราชการ) ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ต่อมาในวันที่ 8 มีนาคม 2556 ผู้เสียภาษียื่นแบบ ภ.พ. 30 เพิ่มเติมสำหรับเดือนภาษีมกราคม เพื่อปรับปรุงยอดขายที่แจ้งไว้ขาดผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ระบบจะคำนวณวันสุดท้ายของการเสียเบี้ยปรับ กรณีชำระภาษีมูลค่าเพิ่มภายใน 15 วันนับแต่วันพ้นกำหนดเวลาชำระภาษีมูลค่าเพิ่ม (ในอัตราร้อยละ 2 ของเบี้ยปรับ ตามข้อ 5 (1) (ก) ของคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป. 81/2542 เรื่อง หลักเกณฑ์การงดหรือลดเบี้ยปรับหรือเงินเพิ่มภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีธุรกิจเฉพาะ ตามมาตรา 22 มาตรา 26 มาตรา 67 ตรี มาตรา 89 และมาตรา 91/21 (6) แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2542) คือ วันที่ 10 มีนาคม 2556
         แต่เนื่องจากวันที่ 10 มีนาคม 2556 เป็นวันหยุดราชการ ระบบจึงต้องออกชุดการชำระเงิน ซึ่งสามารถชำระได้ภายในวันที่ 11 มีนาคม 2556 โดยคำนวณเบี้ยปรับในอัตราเดิม คือ ร้อยละ 2 ถูกต้องหรือไม่

แนววินิจฉัย          ตามข้อเท็จจริงการยื่นแบบฯ เพิ่มเติมเกินกำหนดเวลาผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต มีผลทำให้ผู้เสียภาษีต้องรับผิดเสียเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม โดยหากวันสุดท้ายในการชำระภาษีตรงกับวันหยุดราชการ ให้นับวันที่เริ่มทำการใหม่ต่อจากวันที่หยุดทำการนั้นเป็นวันสุดท้ายของระยะเวลา ตามมาตรา 193/8 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ดังนั้น การนับวันสุดท้ายของการชำระภาษี เพื่อคำนวณเบี้ยปรับ และเงินเพิ่ม ตาม 1. และ 2. จึงเป็นไปตามมาตรา 193/8 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.117/2545 เรื่อง การนับระยะเวลาเพื่อคำนวณ เบี้ยปรับหรือเงินเพิ่ม ภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีธุรกิจเฉพาะ ตามมาตรา 27 มาตรา 67 ตรี มาตรา 89 มาตรา 89/1 และมาตรา 91/21 (6) แห่งประมวลรัษฎากร กรณีกำหนดเวลาในการยื่นแบบแสดงรายการภาษี แบบแสดงรายการหักภาษี และนำเงินภาษีส่ง หรือแบบนำส่งภาษี วันสุดท้ายตรงกับวันหยุดทำการของทางราชการ ลงวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2545
เลขตู้: 81/40534

 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020