เลขที่หนังสือ | : กค 0702/8473 | วันที่ | : 13 ตุลาคม 2559 | เรื่อง | : ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย กรณีขออนุมัติเป็นตัวแทนดำเนินการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและนำส่งภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย แทนผู้จ่ายเงิน | ข้อกฎหมาย | : มาตรา 50 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร | ข้อหารือ | | 1.บริษัทฯ ประกอบกิจการให้เช่าพื้นที่ภายในและภายนอกศูนย์การค้า มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่กรุงเทพมหานคร และมีสำนักงานสาขาจำนวน 5 สาขา
2.บริษัทฯ มีผู้เช่าพื้นที่ศูนย์การค้าเป็นจำนวนมาก จึงขออนุมัติเป็นผู้หักภาษี ณ ที่จ่าย ออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย และนำส่งภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย แทนผู้จ่ายเงิน (ผู้เช่าพื้นที่) สำหรับค่าเช่าพื้นที่ศูนย์การค้าและค่าบริการ โดยปฏิบัติดังนี้
2.1บริษัทฯ จะดำเนินการจัดให้มีหนังสือแต่งตั้งตัวแทนและมอบอำนาจให้บริษัทฯ กระทำการแทนลูกค้า โดยมีสาระสำคัญว่า บริษัทฯ จะเป็นตัวแทนดำเนินการหักภาษี ณ ที่จ่าย และรับมอบอำนาจยื่นแบบ ภ.ง.ด.53 แทนลูกค้าสำหรับค่าเช่าหรือค่าบริการที่ได้รับ
2.2บริษัทฯ ขอยกเว้นไม่ออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายเป็นรายฉบับทุกครั้งที่มีการชำระค่าเช่าหรือค่าบริการ แต่จะระบุข้อความเพิ่มเติมในใบเสร็จรับเงิน หรือใบเสร็จรับเงิน ใบกำกับภาษี โดยมีสาระสำคัญว่า "บริษัทฯ ได้ดำเนินการหักภาษี ณ ที่จ่าย เป็นจำนวนเงิน ... บาท แทนผู้เช่าแล้ว และจะดำเนินการนำส่งภาษีดังกล่าวต่อกรมสรรพากรภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไป" โดยบริษัทฯ จะจัดให้มีการพิมพ์ชื่อผู้รับเงินไว้ในใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษี
2.3บริษัทฯ ขอยกเว้นไม่ต้องยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ตามแบบ ภ.ง.ด.53 ในนามลูกค้า แต่ขอยื่นรายการโดยระบุในช่องผู้มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่ายว่า "บริษัทฯ ในฐานะผู้กระทำการแทนผู้เช่าพื้นที่" พร้อมทั้งแนบรายละเอียดรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ซึ่งระบุชื่อผู้เช่าพื้นที่ เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้เช่าพื้นที่ จำนวนเงิน จำนวนเงินภาษีที่หักและนำส่ง และให้ถือว่าเอกสารดังกล่าวเป็นใบต่อแบบ ภ.ง.ด.53 ด้วย ซึ่งอาจจัดทำเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษก็ได้ และให้ถือว่ารายละเอียดดังกล่าวเป็นบัญชีพิเศษแสดงการหักภาษี ณ ที่จ่าย และนำส่งภาษีของผู้เช่าพื้นที่ด้วย
2.4บริษัทฯ ขอใช้สำเนาแบบ ภ.ง.ด.53 และหลักฐานใบเสร็จรับเงินของกรมสรรพากรที่รับชำระภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย เป็นหลักฐานในการเครดิตภาษีเงินได้นิติบุคคลของบริษัทฯ ตามมาตรา 60 แห่งประมวลรัษฎากร
แนววินิจฉัย | | 1.กรณีที่บริษัทฯ ได้รับค่าเช่าพื้นที่ศูนย์การค้าและค่าบริการ ซึ่งเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (5) และมาตรา 40 (8) แห่งประมวลรัษฎากร ผู้จ่ายเงินมีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย ตามข้อ 6 และข้อ 12/1 ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป.4/2528 เรื่อง สั่งให้ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร มีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ลงวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2528 โดยผู้จ่ายเงินดังกล่าวมีหน้าที่ต้องออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ให้กับบริษัทฯ ผู้ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย ในทันทีทุกครั้งที่มีการหักภาษี ณ ที่จ่ายตามมาตรา 50 ทวิ (1) แห่งประมวลรัษฎากร และมีหน้าที่ต้องยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายตามมาตรา 52 วรรคหนึ่ง มาตรา 59 และมาตรา 3 เตรส แห่งประมวลรัษฎากร
2.เนื่องจากผู้จ่ายเงินซึ่งมีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่ายตาม 1. มีจำนวนมาก ทำให้บริษัทฯ ต้องใช้เวลาในการติดตามและรวบรวมหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายในแต่ละเดือนค่อนข้างมาก ดังนั้น กรณีที่บริษัทฯ มีความประสงค์จะเป็นตัวแทนของผู้จ่ายเงินได้ เพื่อออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย และนำส่งภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายแทนผู้จ่ายเงิน ซึ่งเข้าลักษณะเป็นการกระทำการแทนตัวการ บริษัทฯ มีสิทธิกระทำได้ตามมาตรา 797 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ผู้จ่ายเงินจะต้องจัดทำสัญญาการตั้งตัวแทน และมอบอำนาจให้บริษัทฯ กระทำการแทนเป็นลายลักษณ์อักษร โดยให้บริษัทฯ ซึ่งเป็นตัวแทน ดำเนินการดังนี้
2.1สำหรับผู้จ่ายเงินรายเดิม ให้บริษัทฯ มีหนังสือแจ้งไปยังผู้จ่ายเงิน โดยมีสาระสำคัญว่า "บริษัทฯ จะเป็นผู้ดำเนินการหักภาษี ณ ที่จ่ายของเงินค่าเช่าและค่าบริการ ออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย และยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายแทนผู้จ่ายเงิน" โดยกำหนดระยะเวลาให้ผู้จ่ายเงินนั้นตอบรับ เมื่อผู้จ่ายเงินตอบรับแล้ว ให้ถือว่าหนังสือแจ้งดังกล่าวเป็นข้อตกลงแต่งตั้งให้บริษัทฯ เป็นตัวแทนได้ แต่สำหรับผู้จ่ายเงินรายใหม่ จะต้องมีการทำสัญญาแต่งตั้งตัวแทนเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างชัดเจน
2.2กรณีบริษัทฯ หักภาษี ณ ที่จ่าย สำหรับเงินค่าเช่าและค่าบริการแทนผู้จ่ายเงินแล้ว ผ่อนผันให้บริษัทฯ ไม่ต้องออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย แทนผู้จ่ายเงิน เป็นรายฉบับทุกครั้งที่มีการจ่ายเงินตามมาตรา 50 ทวิ วรรคสาม แห่งประมวลรัษฎากร แต่บริษัทฯ ต้องจัดทำรายละเอียดรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย เพื่อเป็นหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย และบริษัทฯ ยังคงมีหน้าที่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย ทุกครั้งที่มีการจ่ายเงินได้พึงประเมินดังกล่าวรายละเอียดของรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ต้องมีรายการอย่างน้อยดังต่อไปนี้
(ก)คำว่า "รายละเอียดรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ประจำเดือน .. พ.ศ. ...." ในที่ที่เห็นได้ชัด
(ข)ชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของบริษัทฯ ซึ่งเป็นผู้ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย โดยมีข้อความว่า "ในฐานะผู้กระทำการแทนผู้จ่ายเงินได้ตามรายชื่อที่ระบุไว้ในเอกสารนี้"
(ค)ประเภทเงินได้
(ง)ชื่อ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้จ่ายเงิน จำนวนเงินที่จ่าย และจำนวนเงินภาษีที่หักไว้
(จ)ลายมือชื่อผู้มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย
2.3เพื่อเป็นการรับรองว่าบริษัทฯ ได้ดำเนินการหักภาษี ณ ที่จ่ายแทนผู้จ่ายเงินแล้ว ให้บริษัทฯ ระบุข้อความเพิ่มเติมในใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษีของเงินค่าเช่าหรือค่าบริการ โดยมีข้อความว่า "บริษัทฯ ได้หักภาษี ณ ที่จ่าย ในอัตราร้อยละ 5.0 หรือร้อยละ 3.0 เป็นจำนวน .... บาท แทนผู้จ่ายเงินแล้ว และจะดำเนินการนำส่งภาษีดังกล่าวต่อกรมสรรพากรภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไป" ซึ่งบริษัทฯ จะต้องจัดให้มีการ scan หรือพิมพ์ลายมือชื่อผู้รับมอบอำนาจในใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษีดังกล่าวด้วย
2.4ให้บริษัทฯ ยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ตามแบบ ภ.ง.ด.53 โดยระบุในช่องผู้มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย ว่าบริษัทฯ ในฐานะผู้กระทำการแทนผู้จ่ายเงินในใบแนบ ภ.ง.ด.53 พร้อมทั้งแนบรายละเอียดรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ซึ่งระบุชื่อผู้จ่ายเงิน เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้จ่ายเงิน จำนวนเงินที่จ่าย และจำนวนภาษีเงินได้ที่หัก และให้ถือว่าเอกสารรายละเอียดดังกล่าวเป็นใบต่อแบบ ภ.ง.ด.53 ด้วย ซึ่งจะจัดทำเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษก็ได้ และให้ถือว่าเป็นบัญชีพิเศษ แสดงการหักภาษี ณ ที่จ่าย และการนำส่งภาษีตามมาตรา 17 แห่งประมวลรัษฎากร และข้อ 7 ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้และภาษีการค้า (ฉบับที่ 4) เรื่อง กำหนดให้ผู้มีหน้าที่หักภาษีเงินได้หรือภาษีการค้า ณ ที่จ่าย มีบัญชีพิเศษ ลงวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2531
2.5ให้บริษัทฯ ใช้สำเนาแบบ ภ.ง.ด.53 และหลักฐานใบเสร็จรับเงินของกรมสรรพากรที่รับชำระภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย เป็นหลักฐานในการเครดิตภาษีตามมาตรา 60 แห่งประมวลรัษฎากร
เลขตู้ | : 79/40219 |