พระราชกฤษฎีกา ว่าด้วยการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินหรือทรัพย์สินที่บริจาค ในการจัดสร้างเครื่องทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (ฉบับที่ 318) พ.ศ. 2541 ----------------------- ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2541 เป็นปีที่ 53 ในรัชกาลปัจจุบัน | |||
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บุคคล คณะบุคคล ห้างหุ้นส่วน สามัญ บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สำหรับเงินหรือทรัพย์สินที่บริจาคในการจัดสร้าง เครื่องทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฎิมากร และยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่คณะกรรมการ ดำเนินการจัดสร้างเครื่องทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฎิมากร สำหรับเงินหรือทรัพย์สินที่ ได้รับจากการบริจาคดังกล่าว1 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 221 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา 3 (1) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไข เพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2496 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา 1 พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า พระราชกฤษฎีกาออกตามความ ในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 318) พ.ศ. 2541 มาตรา 2 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศ ในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา 3 ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ตามส่วน 2 และส่วน 3 หมวด 3 ในลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากร สำหรับการบริจาคเงินหรือทรัพย์สินในการจัดสร้าง เครื่องทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฎิมากร ดังนี้ (1) สำหรับบุคคลธรรมดา ให้ยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้ พึงประเมินเท่าจำนวนเงินที่บริจาค (2) สำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ให้ยกเว้นภาษี เงินได้สำหรับเงินได้เท่าจำนวนเงินหรือมูลค่าของทรัพย์สินที่บริจาค มาตรา 4 ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ตามส่วน 2 หมวด 3 ในลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากร แก่คณะกรรมการดำเนินการจัดสร้างเครื่องทรงพระพุทธมหามณี รัตนปฎิมากรสำหรับเงินหรือทรัพย์สินที่ได้รับการบริจาคในการจัดสร้างเครื่องทรง พระพุทธมหามณีรัตนปฎิมากร มาตรา 5 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับสำหรับการบริจาคที่ได้กระทำตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2540 เป็นต้นไปจนกว่าการจัดสร้างเครื่องทรงพระพุทธมหามณี รัตนปฏิมากรจะแล้วเสร็จ มาตรา 6 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตาม พระราชกฤษฎีกานี้
|