เลขที่หนังสือ | : กค 0702/3599 | วันที่ | : 3 พฤษภาคม 2559 | เรื่อง | : ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย กรณีการขออนุมัติหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย และนำส่งภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายแทนผู้จ่ายเงิน | ข้อกฎหมาย | : มาตรา 40(5)(8) แห่งประมวลรัษฎากร | ข้อหารือ |
บริษัท ซี. จำกัด (บริษัทฯ) ประกอบกิจการห้างสรรพสินค้า ให้บริการต่างๆ โฆษณา และให้เช่า ซึ่งในการประกอบกิจการ บริษัทฯ มีการซื้อสินค้าจาก Suppliers หลายพันราย และมีการตกลงกับ Suppliers เพื่อขอส่วนลดเนื่องจากการส่งเสริมการขายจากยอดขายในแต่ละเดือน ตามเงื่อนไขที่ตกลงกัน นอกจากนั้น ยังมีการเรียกเก็บเงินกรณีต่างๆ เช่น ค่าสนับสนุนส่งเสริมการขาย ค่าโฆษณา ค่าบริการใช้สถานที่ รวมทั้งการเรียกเก็บค่าเช่าจากผู้เช่าด้วย โดยในทางปฏิบัติ บริษัทฯ จะเรียกเก็บเงินโดยการหักกับค่าสินค้าที่จะจ่ายให้ Suppliers หรือนำใบแจ้งหนี้ค่าเช่าหักกับค่าขายสินค้าที่บริษัทฯ รับเงินแทนและจะจ่ายคืนให้แก่ผู้เช่า เมื่อ Suppliers หรือผู้เช่าได้รับเงินแล้วก็จะออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายมาให้บริษัทฯ แต่เนื่องจาก Suppliers มีจำนวนมาก ทำให้บริษัทฯ ได้รับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายไม่ครบถ้วน และต้องใช้เวลาติดตามรวบรวมหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายเป็นระยะเวลานาน ดังนั้น เพื่อให้บริษัทฯ ได้รับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายครบถ้วนตามกำหนดเวลา บริษัทฯ จึงขออนุมัติเป็นผู้ดำเนินการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย และนำส่งภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายแทนผู้จ่ายเงินได้ สำหรับค่าเช่า ค่าโฆษณา ค่าบริการ และค่าส่วนลดหรือประโยชน์ใดๆ เนื่องจากการส่งเสริมการขาย โดยปฏิบัติ ดังนี้
1. บริษัทฯ จัดทำหนังสือแจ้งไปยังร้านค้า ดังนี้ 1.1 ร้านค้าที่ติดต่อซื้อขายกันอยู่เดิม บริษัทฯ ขอไม่จัดทำหนังสือสัญญาแต่งตั้งบริษัทฯ เป็นตัวแทนในการหักภาษี ณ ที่จ่ายและนำส่งแทนร้านค้า และมอบอำนาจเป็นลายลักษณ์อักษร แต่ขอจัดทำเป็นหนังสือไปยังร้านค้า โดยมีสาระสำคัญว่า "บริษัทฯ จะเป็นผู้ดำเนินการหักภาษี ณ ที่จ่ายของค่าเช่า ค่าโฆษณา ค่าบริการ และค่าส่วนลดหรือประโยชน์ใดๆ เนื่องจากการส่งเสริมการขาย ออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย และยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายแทนร้านค้า" โดยกำหนดระยะเวลาให้ร้านค้าตอบรับ เมื่อร้านค้าตอบรับแล้ว ให้ถือว่า หนังสือดังกล่าว เป็นข้อตกลงแต่งตั้งให้บริษัทฯ เป็นตัวแทนแล้ว 1.2 ร้านค้าใหม่ บริษัทฯ จะจัดทำหนังสือแต่งตั้งและมอบอำนาจให้บริษัทฯ เป็นตัวแทนอย่างชัดเจน 2. บริษัทฯ ขอยกเว้นไม่ต้องออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายเป็นรายฉบับทุกครั้งที่จ่ายเงิน แต่ขอระบุข้อความเพิ่มเติมในใบเสร็จรับเงิน หรือใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี โดยมีสาระสำคัญว่า "บริษัทฯ ได้ดำเนินการหักภาษี ณ ที่จ่าย ในอัตราร้อยละ 5.0 ร้อยละ 3.0 หรือร้อยละ 2.0 เป็นจำนวนเงิน...บาท แทนผู้จ่ายเงินได้และจะนำส่งภาษีดังกล่าวต่อกรมสรรพากรภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไป" โดยบริษัทฯ จะจัดให้มีการ Scan หรือพิมพ์ลายมือชื่อผู้รับมอบอำนาจในใบเสร็จรับเงิน หรือใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี ดังกล่าวด้วย 3. บริษัทฯ ขอยกเว้นไม่ต้องยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ตามแบบ ภ.ง.ด. 53 ในนามผู้จ่ายเงิน แต่บริษัทฯ จะขอยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายตามแบบ ภ.ง.ด. 53 โดยระบุในช่องผู้มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่ายว่า "บริษัทฯ ในฐานะผู้กระทำการแทนผู้จ่ายเงิน" ในใบแนบ ภ.ง.ด. 53 พร้อมทั้งแนบรายละเอียดรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ซึ่งระบุชื่อผู้จ่ายเงิน เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร 13 หลัก ของผู้จ่ายเงิน จำนวนเงินที่จ่าย และจำนวนเงินภาษีที่หัก และให้ถือว่าเอกสารรายละเอียดดังกล่าวเป็นใบต่อแบบ ภ.ง.ด. 53 ด้วย ซึ่งอาจจัดทำเป็นภาษาไทย หรือภาษาอังกฤษก็ได้ และให้ถือว่าเป็นบัญชีพิเศษแสดงการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย และนำส่งภาษีของผู้จ่ายเงินด้วย 4. บริษัทฯ ขอใช้สำเนาแบบ ภ.ง.ด. 53 และหลักฐานใบเสร็จรับเงินของกรมสรรพากรที่รับชำระภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย เป็นหลักฐานในการเครดิตภาษีเงินได้นิติบุคคลของบริษัทฯ 5. บริษัทฯ ขออนุมัติออกหนังสือรับรองการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย และนำส่งภาษีเงินได้ หัก ณ ที่จ่าย แทนผู้จ่ายเงินสำหรับเงินได้ ดังต่อไปนี้ 5.1 ค่าเช่า ตามมาตรา 40 (5) แห่งประมวลรัษฎากร 5.2 ค่าโฆษณา ตามมาตรา 40 (8) แห่งประมวลรัษฎากร 5.3 ค่าบริการใช้สถานที่ ตามมาตรา 40 (8) แห่งประมวลรัษฎากร 5.4 ค่าส่วนลดหรือประโยชน์ใดๆ เนื่องจากการส่งเสริมการขาย ตามมาตรา 40(8) แห่งประมวลรัษฎากร | แนววินิจฉัย |
1. กรณีบริษัทฯ ได้รับเงินค่าเช่า ค่าโฆษณา ค่าบริการ และเงินค่าส่วนลดหรือประโยชน์ใดๆ เนื่องจากการส่งเสริมการขายซึ่งเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(5) และมาตรา 40(8) แห่งประมวลรัษฎากร ผู้จ่ายเงินได้ดังกล่าวมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย โดยคำนวณหักไว้ในอัตราร้อยละ 5.0 ร้อยละ 2.0 และร้อยละ 3.0 ตามข้อ 6 ข้อ 10 ข้อ 12/1 และข้อ 12/2 ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป.4/2528 เรื่อง สั่งให้ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร มีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ลงวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2528 และมีหน้าที่ต้องออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ให้กับบริษัทฯ ในทันทีทุกครั้งที่มีการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 50 ทวิ (1) แห่งประมวลรัษฎากร และมีหน้าที่ต้องยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 52 วรรคหนึ่ง มาตรา 59 และมาตรา 3 เตรส แห่งประมวลรัษฎากร
2. เนื่องจากผู้จ่ายเงินซึ่งมีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ตาม 1. มีเป็นจำนวนมาก ทำให้บริษัทฯ ต้องใช้เวลาในการติดตามและรวบรวมหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ในแต่ละเดือนค่อนข้างมาก ดังนั้น กรณีบริษัทฯ มีความประสงค์เป็นตัวแทนของผู้จ่ายเงินได้ เพื่อออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย และนำส่งภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายแทนผู้จ่ายเงิน ซึ่งเข้าลักษณะเป็นการกระทำการแทนตัวการ บริษัทฯ มีสิทธิกระทำได้ตามมาตรา 797 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ โดยผู้จ่ายเงินจะต้องจัดทำสัญญาตั้งตัวแทนและมอบอำนาจให้บริษัทฯ กระทำการแทนเป็นลายลักษณ์อักษร โดยให้บริษัทฯ ซึ่งเป็นตัวแทน ดำเนินการดังนี้ (1) กรณีบริษัทฯ ได้มีหนังสือแจ้งไปยังผู้จ่ายเงิน ซึ่งมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ตาม 1. ซึ่งเป็นผู้จ่ายเงินรายเดิม โดยมีสาระสำคัญว่า บริษัทฯ จะเป็นผู้ดำเนินการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย สำหรับเงินค่าเช่า ค่าโฆษณา ค่าบริการและค่าส่วนลดหรือประโยชน์ใดๆ เนื่องจากการส่งเสริมการขาย ออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย และยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายแทนผู้จ่ายเงิน โดยกำหนดระยะเวลาให้ผู้จ่ายเงินนั้นตอบรับ เมื่อผู้จ่ายเงินตอบรับแล้ว ให้ถือว่าหนังสือแจ้งดังกล่าวเป็นข้อตกลงแต่งตั้งให้บริษัทฯ เป็นตัวแทนได้ แต่หากเป็นผู้จ่ายเงินซึ่งมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายรายใหม่ จะต้องมีการแต่งตั้งตัวแทนอย่างชัดเจน (2) กรณีบริษัทฯ หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย สำหรับเงินค่าเช่า ค่าโฆษณา ค่าบริการและค่าส่วนลดหรือประโยชน์ใดๆ เนื่องจากการส่งเสริมการขายแทนผู้จ่ายเงินแล้ว ผ่อนผันให้ผู้จ่ายเงินไม่ต้องออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย สำหรับการจ่ายเงินดังกล่าวให้กับบริษัทฯ ในทันทีทุกครั้งที่มีการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 50 ทวิ วรรคสาม แห่งประมวลรัษฎากร บริษัทฯ จึงไม่ต้องออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย เป็นรายฉบับทุกครั้งที่มีการจ่ายเงิน แต่บริษัทฯ ต้องจัดทำรายละเอียดรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย เพื่อเป็นหนังสือรับรองการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายด้วย และบริษัทฯ ยังคงมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ทุกครั้งที่มีการจ่ายเงินได้พึงประเมินดังกล่าวรายละเอียดของรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ต้องมีรายการอย่างน้อย ดังต่อไปนี้ (ก) คำว่า "รายละเอียดรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ประจำเดือน ... พ.ศ. ..." ในที่ที่เห็นได้เด่นชัด (ข) ชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของบริษัทฯ ซึ่งเป็นผู้ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย โดยมีข้อความว่า "ในฐานะผู้กระทำการแทนผู้จ่ายเงินได้ตามรายชื่อที่ระบุไว้ในเอกสารนี้" (ค) ประเภทเงินได้ (ง) ชื่อ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้จ่ายเงิน จำนวนเงินที่จ่าย และจำนวนเงินภาษีที่หักไว้ (จ) ลายมือชื่อผู้มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย (3) เพื่อเป็นการรับรองว่าบริษัทฯ ได้ดำเนินการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายแทนผู้จ่ายเงินแล้วให้บริษัทฯ ระบุข้อความเพิ่มเติมในใบเสร็จรับเงินหรือใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษีของเงินค่าเช่า ค่าโฆษณา ค่าบริการ และค่าส่วนลดหรือประโยชน์ใดๆ เนื่องจากการส่งเสริมการขาย โดยมีข้อความว่า "บริษัทฯ ได้หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ในอัตราร้อยละ 5.0 ร้อยละ 3.0 หรือร้อยละ 2.0 เป็นจำนวน...บาท แทนผู้จ่ายเงินแล้ว และจะดำเนินการนำส่งภาษีดังกล่าวต่อกรมสรรพากรภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไป" ซึ่งบริษัทฯ จะต้องจัดให้มีการ Scan หรือพิมพ์ลายมือชื่อผู้รับมอบอำนาจในใบเสร็จรับเงินหรือใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษีดังกล่าวด้วย (4) ให้บริษัทฯ ยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ตามแบบ ภ.ง.ด.53 โดยระบุในช่องผู้มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่ายว่า "บริษัทฯ ในฐานะผู้กระทำการแทนผู้จ่ายเงิน" ในใบแนบ ภ.ง.ด.53 พร้อมทั้งแนบรายละเอียดรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ซึ่งระบุชื่อผู้จ่ายเงิน เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้จ่ายเงิน จำนวนเงินที่จ่าย และจำนวนภาษีที่หัก และให้ถือว่าเอกสารรายละเอียดดังกล่าวเป็นใบต่อแบบ ภ.ง.ด.53 ด้วย ซึ่งจะจัดทำเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษก็ได้ และให้ถือว่าเป็นบัญชีพิเศษแสดงการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย และการนำส่งภาษี ตามมาตรา 17 แห่งประมวลรัษฎากร และข้อ 7 ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้และภาษีการค้า (ฉบับที่ 4) เรื่อง กำหนดให้ผู้มีหน้าที่หักภาษีเงินได้หรือภาษีการค้า ณ ที่จ่ายมีบัญชีพิเศษ ลงวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2531 (5) ให้บริษัทฯ ใช้สำเนาแบบ ภ.ง.ด. 53 และหลักฐานใบเสร็จรับเงินของกรมสรรพากรที่รับชำระภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย เป็นหลักฐานในการเครดิตภาษี ตามมาตรา 60 แห่งประมวลรัษฎากร | เลขตู้ | : 79/40098 |