1. บริษัทฯ จดทะเบียนนิติ เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2548 ทุนจดทะเบียน 120,000,000 บาท บริษัทฯ เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2555 ประเภทกิจการผลิตสินค้าทางการเกษตรเพื่อส่งออก มีสถานประกอบการสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ถนนราชดำริห์ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร มีสำนักงานสาขา 4 แห่ง บริษัทฯ ได้รับอนุมัติให้ยื่นแบบรวมกับสำนักงานใหญ่เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2556 และเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2557 บริษัทฯ ได้รับอนุมัติให้เปลี่ยนรอบระยะเวลาบัญชีเป็นตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ถึงวันที่ 30 มิถุนายน ของทุกปี (เดิมตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน ถึงวันที่ 31 สิงหาคม ของทุกปี) โดยเริ่มรอบบัญชีแรกที่ขอเปลี่ยน คือ วันที่ 1 กันยายน 2556 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2557

          2. บริษัทฯ ประกอบกิจการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวโพด (สำหรับสัตว์เลี้ยง) เพื่อจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ บริษัทฯ เป็นผู้ประกอบการที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 81(1)(ก) แห่งประมวลรัษฎากร และได้รับสิทธิเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 0 ตามมาตรา 80/1 แห่งประมวลรัษฎากร เนื่องจากบริษัทฯ มีการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ เช่น ลาว เวียดนาม พม่า ไต้หวัน ญี่ปุ่น และฮ่องกง เป็นต้น บริษัทฯ มีแผนกวิจัยและพัฒนาเป็นของตนเอง และเมื่อบริษัทฯ มีสายพันธุ์ข้าวโพดตามที่ต้องการก็จะทำสัญญาจ้างเกษตรกรที่อยู่ทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นผู้เพาะปลูก (Contract Farming)

          3. บริษัทฯ มีการก่อสร้างอาคารโรงงานที่ 2 เมื่อเดือนกันยายน 2555 และสร้างเสร็จเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2556 บริษัทฯ ได้นำภาษีซื้อจากการก่อสร้างอาคารโรงงานดังกล่าวมาหักออกจากภาษีขายตั้งแต่เดือนภาษีพฤศจิกายน 2555 โดยเฉลี่ยภาษีซื้อจากการก่อสร้างอาคารตามส่วนของรายได้ของปีก่อนแต่บริษัทฯ มิได้แจ้งรายการเกี่ยวกับการก่อสร้างและประมาณการการใช้พื้นที่อาคารตามข้อ 5 ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 29) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการเฉลี่ยภาษีซื้อ ตามมาตรา 82/6 แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2535 เจ้าพนักงานประเมินจึงแจ้งให้บริษัทฯ ทราบว่าไม่สามารถนำภาษีซื้อค่าก่อสร้างดังกล่าวมาหักออกจากภาษีขายได้ ถือเป็นภาษีซื้อต้องห้ามตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 42) เรื่อง การกำหนดภาษีซื้อที่ไม่ให้นำไปหักในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 82/5 (6) แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2535

          4. ต่อมาเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2558 บริษัทฯ ได้มีหนังสือขออนุมัติใช้เกณฑ์เฉลี่ยภาษีซื้อจากการก่อสร้างอาคารตามส่วนของรายได้ของปีก่อน โดยมีเหตุผลว่า บริษัทฯ มีข้อจำกัดในการเฉลี่ยสัดส่วนของการใช้พื้นที่อาคารเพื่อใช้ในการเฉลี่ยภาษีซื้อ เนื่องจากพื้นที่ทุกส่วนของอาคารโรงงานประกอบกิจการผลิต และจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดทั้งในประเทศและต่างประเทศ บริษัทฯ จึงขออนุมัติเฉลี่ยภาษีซื้อตามสัดส่วนของรายได้ของแต่ละกิจการของปีก่อน และให้นำภาษีซื้อส่วนที่เฉลี่ยได้ตามส่วนของกิจการประเภทที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มไปหักออกจากภาษีขายในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 82/3 แห่งประมวลรัษฎากร และขอให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่บริษัทฯ ได้มีภาษีซื้อจากการก่อสร้างอาคารเกิดขึ้นเมื่อเดือนภาษีพฤศจิกายน 2555

          กรณีบริษัทฯ ได้ก่อสร้างอาคารโรงงานที่ 2 เพื่อใช้ในการประกอบกิจการของบริษัทฯ ซึ่งมีทั้งกิจการประเภทที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มและประเภทที่ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม บริษัทฯ ต้องเฉลี่ยภาษีซื้อที่เกิดจากการก่อสร้างอาคารตามส่วนของประมาณการการใช้พื้นที่อาคาร ตามมาตรา 82/6 แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับข้อ 5 ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 29)ฯ ลงวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2535 หากบริษัทฯ ไม่สามารถประมาณการการใช้พื้นที่อาคารได้ว่า พื้นที่ส่วนใดใช้สำหรับกิจการที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม และส่วนใดใช้สำหรับกิจการที่ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ทำให้บริษัทฯ ไม่สามารถเฉลี่ยภาษีซื้อตามส่วนของประมาณการการใช้พื้นที่อาคาร ตามข้อ 5 ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากรฉบับดังกล่าวได้ จึงอนุมัติให้บริษัทฯ เฉลี่ยภาษีซื้อตามส่วนของรายได้ของปีที่ผ่านมาของกิจการที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มและกิจการที่ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม และให้นำภาษีซื้อส่วนที่เฉลี่ยได้ตามส่วนของกิจการประเภทที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มไปหักออกจากภาษีขายในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 82/3 และมาตรา 82/6 แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับข้อ 2 และข้อ 7 ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 29)ฯ ลงวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2535 ตั้งแต่ปีที่บริษัทฯ เริ่มเฉลี่ยภาษีซื้อตามส่วนของรายได้ของปีที่ผ่านมาตามที่บริษัทฯ ร้องขอ