พระราชกฤษฎีกา
ออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 531)
พ.ศ. 2554
--------------------------------
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2554
เป็นปีที่ 66 ในรัชกาลปัจจุบัน
มาตรา 1 พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ 531) พ.ศ. 2554
มาตรา 2 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา 3 ให้ลดอัตราภาษีเงินได้ตาม (ก) ของ (2) สำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลแห่งบัญชีอัตราภาษีเงินได้ท้ายหมวด 3 ในลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากร ให้แก่บริษัทที่ได้รับการจดทะเบียนหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตามข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่าด้วยการรับหลักทรัพย์จดทะเบียนใน ตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ และคงจัดเก็บในอัตราร้อยละยี่สิบห้าของกำไรสุทธิ เฉพาะส่วนที่ไม่เกินห้าสิบล้านบาท สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2554 ตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้
(1) บริษัทที่ได้รับการจดทะเบียนหลักทรัพย์ก่อนวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2553 และได้รับสิทธิในการลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 3 (1) แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ 467) พ.ศ. 2550 อยู่ในวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ เมื่อได้ใช้สิทธิในการลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลครบสามรอบระยะเวลาบัญชีต่อเนื่องกันตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวก่อนวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2554
(2) บริษัทที่ได้รับการจดทะเบียนหลักทรัพย์ก่อนวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2553 และไม่เคยได้รับสิทธิในการลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 3 (1) แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ 467) พ.ศ. 2550
(3) บริษัทที่ได้รับการจดทะเบียนหลักทรัพย์ระหว่างวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2553 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2554
มาตรา 4 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
นายกรัฐมนตรี
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่เป็นการสมควรลดอัตราภาษีเงินได้สำหรับกำไรสุทธิของบริษัทที่ได้รับการจดทะเบียนหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตามข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่าด้วยการรับหลักทรัพย์จดทะเบียนใน ตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ เพื่อลดภาระภาษีและสนับสนุนการพัฒนาและยกระดับการประกอบกิจการของบริษัทดังกล่าวให้เป็นบริษัทขนาดใหญ่รวมทั้งเพื่อจูงใจให้บริษัทขนาดกลางและขนาดย่อมนำหลักทรัพย์มาจดทะเบียนในตลาดหลัทรัพย์เอ็มเอไอมากขึ้นซึ่งเป็นมาตรการที่กระตุ้นให้เกิดการลงทุนของภาคเอกชนและการพัฒนาตลาดทุนโดยรวม อันจะทำให้ระบบเศรษฐกิจขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้
(ร.จ. ฉบับกฤษฎีกา เล่ม 128 ตอนที่ 93 ก ราชกิจจานุเบกษา วันที่ 21 ธันวาคม 2554)