(1) การขายที่ดินแก่ กคช. บริษัทฯ เป็นเพียงตัวกลางในการจัดหาที่ดินจากบุคคลภายนอกเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินที่จะขายให้แก่ กคช. ซึ่งการกระทำนิติกรรมและโอนกรรมสิทธิ์เจ้าของที่ดินจะดำเนินการกับ กคช. โดยตรง

          (2) เมื่อมีการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินระหว่างคู่สัญญาแล้วเสร็จทางบริษัทฯ จะดำเนินการ

ก่อสร้างตามโครงการบ้านเอื้ออาทรเศรษฐกิจ 3 ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2547 บริษัทฯ ได้รับเงินล่วงหน้าของค่าก่อสร้าง จำนวน 15% จาก กคช. แล้ว และบริษัทฯ ได้ดำเนินการชำระภาษีมูลค่าเพิ่มจากยอดรายได้ที่รับล่วงหน้าจาก กคช. ต่อกรมสรรพากรแล้ว บริษัทฯ จึงหารือว่าตามข้อเท็จจริงดังกล่าว บริษัทฯ ได้ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายเกี่ยวกับภาษีอากรแล้วหรือไม่

          บริษัทฯ เป็นผู้ดำเนินการให้บุคคลภายนอก ซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้ กคช. เนื่องจากบริษัทฯ ไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่โอนให้แก่ กคช. แต่อย่างใด

บริษัทฯ เป็นเพียงผู้ดำเนินการให้มีการโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินแก่ กคช. เท่านั้น ทั้งนี้ ตามข้อ 1 ของสัญญาฉบับเลขที่ กคช. (คก.2)10/2547 และหนังสือสัญญาขายที่ดินเฉพาะส่วน ลงวันที่ 9 กรกฎาคม 2547 จำนวน 2 ฉบับ จึงถือไม่ได้ว่าบริษัทฯ เป็นผู้ขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางค้าหรือหากำไร ตามมาตรา 4 แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 342) พ.ศ. 2541 บริษัทฯ จึงไม่มีหน้าที่เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ตามมาตรา 91/2(6) แห่งประมวลรัษฎากร แต่อย่างใด

          (2) ภาษีมูลค่าเพิ่ม

          บริษัทฯ รับจ้างปลูกสร้างบ้านในโครงการบ้านเอื้ออาทร เศรษฐกิจ 3 กับ กคช.

ตามสัญญาฉบับเลขที่ กคช. (คก.2)10/2547 ภาค (ข) ลงวันที่ 17 มิถุนายน 2547 เข้าลักษณะเป็นการให้บริการตามมาตรา 77/1(10) แห่งประมวลรัษฎากร บริษัทฯ จึงมีหน้าที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 77/2 แห่งประมวลรัษฎากร และเนื่องจากบริษัทฯ ได้รับค่าจ้างล่วงหน้า บางส่วน

ตามข้อ 14/1 ของบันทึกเพิ่มเติมท้ายสัญญาฉบับเลขที่ กคช. (คก.2)10/2547 ลงวันที่ 17 มิถุนายน 2547 เป็นจำนวนเงิน 73,770,000 บาท (เจ็ดสิบสามล้านเจ็ดแสนเจ็ดหมื่นบาทถ้วน) ดังนั้น บริษัทฯ จะมีความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มจากฐานภาษีซึ่งเป็นค่าจ้างที่บริษัทฯ ได้รับล่วงหน้า จำนวนดังกล่าว ตามมาตรา 78/1(1) แห่งประมวลรัษฎากร

          (3) ภาษีเงินได้นิติบุคคล

          ตามข้อเท็จจริง บริษัทฯ ได้รับค่าตอบแทนบางส่วนล่วงหน้าจากการรับปลูกสร้างบ้านหรืออาคาร ซึ่งถือเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(8) แห่งประมวลรัษฎากร จาก กคช.

ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาล ดังนั้น บริษัทฯ ต้องถูกหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ในอัตราร้อยละ 1 ตาม

มาตรา 69 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร โดยต้องนำค่าตอบแทนดังกล่าว มารวมคำนวณเป็นรายได้ของบริษัทฯ ตามมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร อนึ่ง หากบริษัทฯ มีรายได้หรือค่าตอบแทนจากการดำเนินการให้บุคคลภายนอกโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินให้ กคช. บริษัทฯ ต้องนำค่าตอบแทนดังกล่าว

มารวมคำนวณเป็นรายได้ของบริษัทฯ ตามมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร ด้วย