เมนูปิด

เลขที่หนังสือ: กค 0706/พ./9711
วันที่: 21 พฤศจิกายน 2548
เรื่อง: ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการเรียกเก็บเงินเพิ่มภาษีอากรค้าง
ข้อกฎหมาย: มาตรา 67 ทวิ(1) มาตรา 27 วรรคสาม
ข้อหารือ: ห้างฯ ได้ยื่นแบบ ภ.ง.ด.51 สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีปี 2545 เมื่อวันที่ 2
กันยายน 2545 โดยแสดงกึ่งหนึ่งของประมาณการกำไรสุทธิที่ต้องคำนวณภาษี
จำนวน 28,336.30 บาท และได้ชำระภาษีไว้จำนวน 5,667.26 บาท ต่อมาเมื่อวันที่
15 ตุลาคม 2546 ห้างฯ ได้ยื่นแบบ ภ.ง.ด.50 ปรับปรุงรายได้ตามคำแนะนำของทีม
กำกับดูแลฯ ที่ออกตรวจสภาพกิจการ มีผลทำให้รอบระยะเวลาบัญชีปี 2545 มี
กำไรสุทธิ 301,242.49 บาท ภาษีเงินได้นิติบุคคลและเงินเพิ่มจำนวน 29,370.90
บาท ห้างฯ ได้ชำระภาษีพร้อมกับการยื่นแบบฯ จำนวน 5,000 บาท คงค้างภาษี
จำนวน 24,370.90 บาท ตามใบแจ้งการค้างชำระภาษีอากร บ.ช.35 ลงวันที่ 15
ตุลาคม 2546 จากการยื่นแบบฯ ดังกล่าว มีผลทำให้ประมาณการกำไรสุทธิที่ยื่นแบบ
ภ.ง.ด.51 ไว้เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2545 ขาดไปเกินร้อยละ 25 ของกำไรสุทธิ ห้างฯ
จึงยื่นแบบ ภ.ง.ด.51เพิ่มเติมในวันเดียวกัน เพื่อปรับปรุงประมาณการกำไรสุทธิให้
ถูกต้อง โดยมีภาษีต้องชำระจำนวน 24,456.99 บาท พร้อมเงินเพิ่มจำนวน
4,891.40 บาท รวมทั้งสิ้นจำนวน 29,348.39 บาท ห้างฯ ได้ชำระภาษีพร้อมกับการ
ยื่นแบบฯ จำนวน 5,000 บาท คงค้างภาษีจำนวน 24,384.39 บาท ตาม ใบแจ้งการ
ค้างชำระภาษีอากร บ.ช.35 ลงวันที่ 15 ตุลาคม 2546
ห้างฯ ได้ยื่นคำร้องขอผ่อนชำระภาษีอากรค้างจำนวน 4 งวดรายเดือน งวดแรก
วันที่ 30 พฤษภาคม 2548 และงวดสุดท้ายวันที่ 27 สิงหาคม 2548 ซึ่งยังไม่ได้รับ
อนุมัติให้ผ่อนชำระ แต่ในการชำระภาษีอากรค้างจำนวน 24,384.39 บาท ตาม บ.ช.35 ลง
วันที่ 15 ตุลาคม 2546 โดยผ่อนชำระเป็นงวด งวดที่ 1 - งวดที่ 3 งวดละ 7,600 บาท
และงวดที่ 4 จำนวน 1,548.39 บาท เจ้าพนักงานฯ ได้ตรวจสอบภาษีอากรค้างบน
ระบบ TCL พบว่า ยังมีภาษีอากรค้างซึ่งเป็นเงินเพิ่มใหม่ในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อ
เดือนหรือเศษของเดือนของเงินภาษีที่ต้องเสีย ตามมาตรา 27 แห่งประมวล
รัษฎากร จำนวน 5,786.94 บาท จึงหารือว่า กรณี ห้างฯ ได้ยื่นแบบ ภ.ง.ด.51
เพิ่มเติมสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีปี 2545 เพื่อปรับปรุงประมาณการกำไรสุทธิ
ขาดไปเกินร้อยละ 25 ของกำไรสุทธิสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีดังกล่าว จะต้องรับ
ผิดชำระเงินเพิ่มร้อยละ 20 ของจำนวนภาษีที่ต้องชำระตามมาตรา 67 ตรี แห่ง
ประมวลรัษฎากร แต่เนื่องจาก ห้างฯ ไม่ได้ชำระภาษีอากรให้เสร็จสิ้นไปพร้อมกับ
การยื่นแบบ ภ.ง.ด.51 ฉบับยื่นเพิ่มเติม หากต่อมาได้ชำระภาษีอากรค้างดังกล่าว
ห้างจะต้องรับผิดเสียเงินเพิ่มตามมาตรา 27 แห่งประมวลรัษฎากร เพิ่มเติมอีก
หรือไม่ และจะต้องคำนวณเงินเพิ่มตั้งแต่เมื่อใด
แนววินิจฉัย: กรณีตามข้อเท็จจริง ห้างฯ ยื่นแบบ ภ.ง.ด.51 โดยประมาณการกำไรสุทธิตาม
มาตรา 67 ทวิ(1) แห่งประมวลรัษฎากร ไว้จำนวน 2 ฉบับ ฉบับแรกยื่นภายใน
กำหนดเวลา ฉบับที่สองยื่นเกินกำหนดเวลา เพื่อปรับปรุงประมาณการกำไรสุทธิให้
ถูกต้องจากแบบ ภ.ง.ด.51 ที่ได้ยื่นไว้ในฉบับแรกและแสดงประมาณการกำไรสุทธิขาด
ไปเกินร้อยละ 25 ของกำไรสุทธิซึ่งได้จากกิจการหรือเนื่องจากกิจการที่กระทำในรอบ
ระยะเวลาบัญชีนั้นโดยไม่มีเหตุอันสมควรจะต้องเสียเงินเพิ่มอีกร้อยละ 20 ของภาษี
ที่ชำระเพิ่มเติมแต่ห้างฯได้ชำระภาษีตามแบบ ภ.ง.ด.51 ฉบับที่สองไว้เพียงบางส่วน
ภาษีส่วนที่ค้างชำระจึงเป็นหนี้ภาษีอากรค้างตามมาตรา 12 แห่งประมวลรัษฎากร ห้างฯ
ต้องเสียเงินเพิ่มอีกร้อยละ 1.5 ต่อเดือนหรือเศษของเดือนของเงินภาษีที่ต้องเสียตามมาตรา 27
แห่งประมวลรัษฎากร โดยเริ่มคำนวณเงินเพิ่มจากจำนวนภาษีที่ค้างชำระตามแบบ
ภ.ง.ด.51 ฉบับที่สองนับตั้งแต่วันพ้นกำหนดเวลายื่นแบบแสดงรายการจนถึงวันชำระ
ภาษี ตามมาตรา 27 วรรคสาม แห่งประมวลรัษฎากร ดังนั้น จึงไม่มีประเด็นที่ต้อง
พิจารณากรณีเงินเพิ่มใหม่ที่ค้างอยู่ในระบบ TCL แต่อย่างใด
เลขตู้: 68/33692

 

 

 

ปรับปรุงล่าสุด: 31-07-2024