เมนูปิด

เลขที่หนังสือ: กค 0706/8657
วันที่: 19 ตุลาคม 2548
เรื่อง: ภาษีเงินได้นิติบุคคลหัก ณ ที่จ่าย กรณีจ่ายค่าธรรมเนียมและค่าที่ปรึกษาไปต่างประเทศ
ข้อกฎหมาย: มาตรา 70 พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 18) พ.ศ. 2505 อนุสัญญาระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลแห่งสหรัฐอเมริกา
ข้อหารือ: ปัญหาภาษีหัก ณ ที่จ่าย กรณีจ่ายค่าธรรมเนียมและค่าที่ปรึกษาไป
ต่างประเทศ สรุปข้อเท็จจริง ดังนี้
1. จากการวิเคราะห์ข้อมูลการยื่นแบบ ภ.พ.36 ปรากฏว่า มีการจ่าย
ค่าธรรมเนียมการให้คำแนะนำและปรึกษาให้แก่ บริษัท อ. ซึ่งเป็นการจ่ายเงินให้
บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศและมิได้
กระทำกิจการในประเทศไทย แต่บริษัทฯ มิได้หักภาษี และนำส่งด้วยแบบ ภ.ง.ด.54
ตามมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากรแต่อย่างใด
2. บริษัทฯ เป็นนิติบุคคลในเครือเดียวกันของกลุ่มบริษัท ม. ที่ถือหุ้นทั้ง
ทางตรงและทางอ้อมโดยกลุ่มบริษัท ม. ในการบริหารงานของบริษัทในเครือ ม. จะ
ใช้วิธีการจัดสรรพนักงานที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะด้าน ขึ้นเป็นกลุ่มสนับสนุน
ร่วม เป็นหน่วยงานกลางของกลุ่ม ม. ทำหน้าที่ให้การสนับสนุนการบริหารการ
จัดการ การดำเนินงานและการควบคุมต้นทุนของบริษัทในเครือทั่วโลก โดย
ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทั้งหมดจะทำการปันส่วนไปยังบริษัทฯ ทั้งนี้ บริษัทฯ จะจ่ายเงิน
ค่าตอบแทนให้ บริษัท อ. ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ บริษัท ม. เช่นกัน การดำเนินการ
ดังกล่าวจะมีหลักเกณฑ์การปันส่วนรายจ่ายจากรายรับ จึงถือเป็นการจ่ายเงินได้พึง
ประเมินที่เข้าลักษณะ “ค่าสิทธิ” ตามข้อ 12 วรรคสอง แห่งอนุสัญญาระหว่างรัฐบาล
แห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐสิงคโปร์ เพื่อการเว้นการเก็บภาษี
ซ้อนและการป้องกันการเลี่ยงการรัษฎากรในส่วนที่เกี่ยวกับภาษีเก็บจากเงินได้
แนววินิจฉัย: กรณีเงินได้จากสัญญาให้บริการตามข้อเท็จจริงดังกล่าว บริษัท อ. ผู้ว่าจ้าง
มีสถานภาพเป็นสำนักงานสาขาของบริษัทต่างประเทศ จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายของ
มลรัฐเดลาแวร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ บริษัท อ. ผู้รับจ้าง มีสถานภาพ
เป็นสำนักงานสาขาของบริษัทต่างประเทศ จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายของประเทศ
สหรัฐอเมริกา กรณีดังกล่าว แม้เป็นการจ่ายเงินได้จากประเทศไทยไปยังประเทศ
สิงคโปร์ แต่ไม่อาจปรับใช้บทบัญญัติแห่งอนุสัญญาระหว่างรัฐบาลแห่ง
ราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐสิงคโปร์ เพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อน
และการป้องกันการเลี่ยงการรัษฎากรในส่วนที่เกี่ยวกับภาษีเก็บจากเงินได้ แต่ต้อง
พิจารณาถึงบทบัญญัติแห่งอนุสัญญาระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และ
รัฐบาลแห่งสหรัฐอเมริกาเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนและการป้องกันการเลี่ยงการ
รัษฎากรในส่วนที่เกี่ยวกับภาษีเก็บจากเงินได้ เนื่องจากบริษัท อ. ผู้มีเงินได้พึง
ประเมินมีถิ่นที่อยู่ตามกฎหมายของประเทศสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ ตามข้อ 1 วรรค
หนึ่งแห่งอนุสัญญาระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และรัฐบาลแห่ง
สหรัฐอเมริกาเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนและการป้องกันการเลี่ยงการรัษฎากรใน
ส่วนที่เกี่ยวกับภาษีเก็บจากเงินได้ นอกจากนี้ ลักษณะงานตามสัญญาให้บริการที่
บริษัท อ. มีหน้าที่ต้องดำเนินการคือการสนับสนุนในระดับภูมิภาค (Regional
Operating Center) สำหรับการโฆษณา (Regional Advertising) การวิจัยและ
พัฒนาเพื่อปรับปรุงส่วนแบ่งตลาดสำหรับกลุ่มสินค้าภายในเครือเดียวกัน
(Regional Franchises) ระบบสารสนเทศ (Information System) การบริหารทาง
การเงิน (Services and Finances) การจัดการด้านบุคลากร (Personal and
Organization) ซึ่งลักษณะงานถือเป็นการทำหน้าที่เพื่อสนับสนุนการดำเนินงาน
ทางภูมิภาคให้แก่บริษัทภายในเครือ มิใช่เป็นค่าตอบแทนจากการใช้หรือสิทธิใน
การใช้ลิขสิทธิ์ใด ๆ ในงานวรรณกรรม ศิลปะ หรือ วิทยาศาสตร์ สิทธิบัตร
เครื่องหมายการค้า แบบ หรือหุ่นจำลอง แผนผังสูตรลับหรือกรรมวิธีใด ๆ หรือเป็น
ค่าตอบแทนเพื่อการใช้หรือสิทธิในการใช้อุปกรณ์ทางอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม
หรือวิทยาศาสตร์ หรือเป็นการถ่ายทอดข้อสนเทศที่เกี่ยวกับประสบการณ์ทาง
อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม หรือวิทยาศาสตร์ ตามข้อ 12 วรรคสาม แห่งอนุสัญญา
ระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และรัฐบาลแห่งสหรัฐอเมริกาเพื่อการเว้นการ
เก็บภาษีซ้อนและการป้องกันการเลี่ยงการรัษฎากรในส่วนที่เกี่ยวกับภาษีเก็บจาก
เงินได้ แต่ถือเป็นกำไรจากธุรกิจ ดังนั้น หากบริษัท อ. ได้ให้บริการดังกล่าวใน
ต่างประเทศ และมิได้กระทำผ่านสถานประกอบการถาวรในประเทศไทย บริษัท อ.
จึงไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในประเทศไทยจากการให้บริการดังกล่าว
ทั้งนี้ ตามข้อ 7 วรรคหนึ่ง แห่งอนุสัญญาระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และ
รัฐบาลแห่งสหรัฐอเมริกาเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนและการป้องกันการเลี่ยงการ
รัษฎากรในส่วนที่เกี่ยวกับภาษีเก็บจากเงินได้ ประกอบกับมาตรา 3 แห่งพระราช
กฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 18) พ.ศ. 2505 บริษัทฯ ไม่มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้นิติบุคคล
ตามมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร
เลขตู้: 68/33624

 


 

 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020