เมนูปิด

เลขที่หนังสือ: กค 0706/2333
วันที่: 20 มีนาคม 2549
เรื่อง: ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีสิทธิประโยชน์ทางภาษีในการปรับปรุงโครงสร้างหนี้
ข้อกฎหมาย: พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 433) พ.ศ. 2548
ข้อหารือ:          เป็นเจ้าของที่ดินและได้จดทะเบียนจำนองเป็นประกันหนี้ไว้กับบริษัท ง. เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2537 เป็นเงิน 38,000,000 บาท ต่อมาเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2545 ได้ขายที่ดินดังกล่าวให้นาย ป. เป็นเงิน 43,000,000 บาท โดยเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นเงิน 1,951,212 บาท อากรแสตมป์ เป็นเงิน 329,054 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,310,266 บาท และได้นำเงินจากการขายที่ดินไปชำระหนี้ให้กับศาลล้มละลายกลาง เป็นเงิน 30,400,860 บาท เนื่องจากบริษัท เงินทุนหลักทรัพย์ ง. ถูกศาลล้มละลายกลางพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลายตามคดีหมายเลขแดงของศาลล้มละลายกลาง และได้ขอปรับปรุงโครงสร้างหนี้กับเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ กรมบังคับคดี ซึ่งได้กระทำการแทน บริษัท ง. หารือว่า จึงขอทราบว่า
           1. มีสิทธิขอคืนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและอากรแสตมป์ตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 433) พ.ศ.2548 หรือไม่
           2. ต้องแจ้งหนังสือรับรองหนี้ที่ต้องดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตามหลักเกณฑ์การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของสถาบันการเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด ก่อนวันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2548 และหนังสือรับรองการโอนอสังหาริมทรัพย์ของลูกหนี้ของสถาบันการเงินให้แก่ผู้อื่นที่มิใช่เจ้าหนี้ที่เป็นสถาบันการเงิน เพื่อนำเงินที่ได้รับจากการโอนอสังหาริมทรัพย์ไปชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ที่เป็นสถาบันการเงิน เพื่อขอรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 433) พ.ศ.2548 ต่อเจ้าพนักงานที่ดินท้องที่ที่จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม และอธิบดีกรมสรรพากรหรือไม่
แนววินิจฉัย:           ตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 433) พ.ศ.2548 เจ้าหนี้จะต้องเป็นสถาบันการเงินที่กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว และได้ดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตามหลักเกณฑ์การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของสถาบันการเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด แต่กรณีตามข้อเท็จจริง ท่านได้ทำสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้กับเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ กรมบังคับคดี ซึ่งมิใช่สถาบันการเงิน ท่านจึงไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 433) พ.ศ.2548
เลขตู้: 69/33999

 

 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020