ข้อ 16 ค่าป่วยการของกรรมการ ค่าป่วยการของกรรมการและเงินที่ชำระอย่างอื่นอันคล้ายคลึงกันซึ่งผู้มีถิ่นที่อยู่ในรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่งได้รับในฐานะที่เป็นสมาชิกในคณะกรรมการของบริษัท ซึ่งมีถิ่นที่อยู่ในรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่ง อาจเก็บภาษีได้ในอีกรัฐหนึ่งนั้น ข้อ 17 นักแสดงและนักกีฬา 1. โดยไม่คำนึงถึงบทบัญญัติในข้อ 14 และ 15 เงินได้ที่ผู้มีถิ่นที่อยู่ในรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่งได้รับในฐานะนักแสดง อาทินักแสดงละคร ภาพยนตร์ วิทยุหรือโทรทัศน์ หรือนักดนตรีหรือนักกีฬาจากกิจกรรมส่วนบุคคลของตนที่กระทำในรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่ง อาจเก็บภาษีได้ในอีกรัฐหนึ่งนั้น 2. ในกรณีที่เงินได้ในส่วนที่เกี่ยวกับกิจกรรมส่วนบุคคลที่กระทำโดยนักแสดงหรือนักกีฬาตามความสามารถของตนนั้น มิได้เกิดขึ้นกับตัวนักแสดงหรือนักกีฬา แต่เกิดขึ้นกับบุคคลอื่น โดยไม่ต้องคำนึงถึงบทบัญญัติของข้อ 7 , 14 และ 15 เงินได้นั้นอาจเก็บภาษีได้ในรัฐผู้ทำสัญญาที่กิจกรรมนั้นๆ ของนักแสดงหรือนักกีฬาได้กระทำขึ้น 3. บทบัญญัติของวรรค 1 และ 2 ของข้อนี้ จะไม่ใช้บังคับกับเงินได้ที่ได้รับจากกิจกรรมที่กระทำในรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่งโดยนักแสดงหรือนักกีฬา ถ้าการมาเยือนรัฐผู้ทำสัญญารัฐนั้นได้รับการอุดหนุนส่วนใหญ่โดยเงินทุนสาธารณะของรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่งหรือองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นของอีกรัฐหนึ่งนั้น 4. โดยไม่ต้องคำนึงถึงบทบัญญัติของข้อ 7 ในกรณีกิจกรรมต่างๆ ที่กล่าวถึงในวรรค 1 ของข้อนี้ได้มีขึ้นในรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่งโดยวิสาหกิจของรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่ง กำไรซึ่งวิสาหกิจเช่นว่านั้นได้รับจากการจัดให้มีกิจกรรมเหล่านี้ขึ้น อาจเก็บภาษีได้ในรัฐผู้ทำสัญญาที่กล่าวถึงรัฐแรก เว้นแต่วิสาหกิจนั้นได้รับการอุดหนุนเป็นส่วนใหญ่จากกองทุนสาธารณะในส่วนที่เกี่ยวกับการจัดกิจกรรมดังกล่าวของรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่ง หรือองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นของอีกรัฐหนึ่งนั้น ข้อ 18 เงินบำนาญ ภายใต้บังคับแห่งบทบัญญัติของวรรค 2 ของข้อ 19 เงินบำนาญและค่าตอบแทนอื่นๆ ที่คล้ายคลึงกันที่จ่ายให้แก่ผู้มีถิ่นที่อยู่ในรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่งสำหรับการทำงานในอดีตจะเก็บภาษีได้เฉพาะในรัฐนั้น ข้อ 19 งานรัฐบาล 1. (ก) ค่าตอบแทนนอกเหนือจากเงินบำนาญที่จ่ายโดยรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่งหรือส่วนราชการหรือ องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นของรัฐผู้ทำสัญญารัฐนั้นให้แก่บุคคลธรรมดาในส่วนที่เกี่ยวกับบริการที่ ให้แก่รัฐนั้น หรือส่วนราชการ หรือองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นจะเก็บภาษีได้เฉพาะในรัฐนั้น (ข) อย่างไรก็ตาม ค่าตอบแทนดังกล่าวจะก็บภาษีได้เฉพาะในรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่งเท่านั้น ถ้า หากบริการนั้นได้เกิดขึ้นในรัฐนั้น และบุคคลผู้นั้นเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ในรัฐนั้นผู้ซึ่ง (1) เป็นคนชาติของรัฐนั้น หรือ (2) มิได้เป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ในรัฐนั้นเพียงเพื่อมุงประสงค์ที่จะให้บริการนั้น 2. (ก) เงินบำนาญใดๆที่จ่ายหรือจ่ายจากกองทุนที่ก่อตั้งขึ้นโดยรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่งหรือส่วนราชการ หรือองค์การหรือองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นของรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่งนั้นให้แก่บุคคลธรรมดาใดๆ ที่เกี่ยวกับบริหารที่ให้แก่รัฐนั้นหรือส่วนราชการหรือองค์การบริหารของรัฐนั้น จะเก็บภาษีได้ เฉพาะในรัฐนั้น (ข) อย่างไรก็ตาม เงินบำนาญนั้นจะเก็บภาษีได้เฉพาะในรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่ง ถ้าบุคคลธรรมดา นั้นเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่และเป็นคนชาติของรัฐนั้น 3. บทบัญญัติของข้อ 15, 16 และ 18 จะใช้บังคับแก่ค่าตอบแทนและเงินบำนาญที่เกี่ยวกับการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจใด ๆ ที่ดำเนินการโดยรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่งหรือส่วนราชการหรือองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นของรัฐนั้น ข้อ 20 นักเรียนและผู้รับการฝึกอบรม 1. บุคคลธรรมดาในขณะที่มีถิ่นที่อยู่ในรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่ง เป็นผู้อยู่ชั่วคราวในรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่ง และในการอยู่เป็นการชั่วคราวนั้น บุคคลฯ นั้นมีวัตถุประสงค์เพียงเพื่อ (ก) เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยในรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่งหรือสถาบันการศึกษาอื่นซึ่งเป็นที่ยอมรับ หรือ (ข) เข้ารับการฝึกอบรมในสถาบันการศึกษาซึ่งเป็นที่ยอมรัฐ ให้มีคุณสมบัติที่จะประกอบวิชาชีพ หรือ (ค) เข้าศึกษาหรือดำเนินการค้นคว้าวิจัยโดยเป็นผู้ได้รับทุน เงินอุดหนุน หรือรางวัลจากองค์การ รัฐบาลศาสนา การกุศล วิทยาศาสตร์ วรรณกรรม หรือการศึกษาจะได้รับยกเว้นภาษีในรัฐ ผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่งจาก (1) เงินที่ส่งจากต่างประเทศเพื่อความมุ่งประสงค์ในการครองชีพ การศึกษา การเล่าเรียน การค้นคว้า วิจัย หรือการฝึกอบรมของผู้นั้นเอง (2) ทุนเงินอุดหนุนหรือ เงินรางวัล และ (3) เงินได้จากบริหารส่วนบุคคลที่ให้ในรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่ง แต่เงื่อนไขว่าเงินได้เช่นว่า นั้นต้องจำเป็นสำหรับการครองชีพ และการศึกษาของผู้นั้น 2. ไม่มีกรณีใดที่บุคคลธรรมดาจะได้รับประโยชน์ตามบทบัญญติของข้อนี้เกินกว่าห้าปี |