เมนูปิด

เลขที่หนังสือ: กค 0706/6032
วันที่: 18 กรกฎาคม 2549
เรื่อง:        ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ กรณีสถาบันการเงินควบเข้ากันหรือโอนกิจการให้แก่กันตามแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน
ข้อกฎหมาย:        พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 453) พ.ศ. 2549 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งประมวลรัษฎากร
ข้อหารือ:       ขอหารือกรณีการยกเว้นภาษีอากรให้แก่สถาบันการเงินที่ควบเข้ากันหรือโอนกิจการให้แก่กันตามแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ตามพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 453) พ.ศ. 2549 โดยกรม ก. ได้พิจารณาบทบัญญัติตามมาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 453) พ.ศ. 2549 ซึ่งกำหนดให้ยกเว้นภาษีอากรสำหรับเงินได้พึงประเมิน รายรับ หรือการกระทำตราสารที่เกิดขึ้นเนื่องมาจากการที่สถาบันการเงินควบเข้ากันหรือโอนกิจการทั้งหมด หรือบางส่วนให้แก่กันเฉพาะการควบเข้ากันหรือการโอนกิจการที่ได้กระทำระหว่างวันที่ 6 มกราคม 2547 ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2549 ทำให้มีประเด็นพิจารณาว่า กำหนดระยะเวลาดังกล่าวเป็นกำหนดระยะเวลาในการควบเข้ากันหรือโอนกิจการให้แก่กันเท่านั้น หรือเป็นกำหนดระยะเวลาที่ใช้สำหรับการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์อันเนื่องมาจากการควบเข้ากันหรือโอนกิจการให้แก่กันนั้นด้วย
แนววินิจฉัย:       การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ ให้แก่สถาบันการเงินจากการควบเข้ากันหรือโอนกิจการให้แก่กันตามแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงินตามมาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 453) พ.ศ. 2549 เป็นการยกเว้นภาษีอากรให้แก่สถาบันการเงินซึ่งได้กระทำการควบเข้ากันหรือโอนกิจการให้แก่กันระหว่างวันที่ 6 มกราคม 2547 ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2549 แม้การโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์จะมีการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมหลังจากวันที่ 31 กรกฎาคม 2549 สถาบันการเงินผู้โอนก็ยังคงได้รับสิทธิยกเว้นภาษีอากรตามพระราชกฤษฎีกาฉบับดังกล่าว
เลขตู้:69/34366

 

 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020