: 1. บริษัทฯ จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2544 และจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2544 มีรอบระยะเวลาบัญชีตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ถึงวันที่ 31 มีนาคมของทุกปี ประกอบกิจการนายหน้ารับประกันวินาศภัยตรง (เป็นนายหน้าให้กับบริษัทประกันภัยในประเทศ กับลูกค้าผู้เอาประกันภัยในประเทศ) บริษัทฯ มีรายได้จากค่านายหน้าที่ได้รับจากบริษัทประกันภัย ในประเทศ นอกจากนี้บริษัทฯ ยังรับประกันภัยต่อให้กับบริษัทประกันภัยทั้งในประเทศและ ต่างประเทศ 2. บริษัทฯ มีรายได้ที่ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของรายได้ของ กิจการทั้งหมด ซึ่งบริษัทฯ มีสิทธิเลือกไม่นำภาษีซื้อทั้งจำนวนไปหักออกจากภาษีขาย แต่ให้นำไป รวมคำนวณเป็นมูลค่าต้นทุนทรัพย์สินหรือรายจ่ายของกิจการ แต่ในปีที่ผ่านมาในรอบระยะเวลา บัญชีตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2545 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2546 บริษัทฯ ได้ยื่นรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.30) โดยได้เฉลี่ยภาษีซื้อและนำไปหักออกจากภาษีขายไว้แล้ว เนื่องจากไม่เข้าใจข้อกฎหมาย จึงได้ทำการเฉลี่ยภาษีซื้อ ดังนั้น เพื่อความสะดวกในการจัดทำรายงานภาษีซื้อและการยื่นแบบ ภ.พ.30 ของบริษัทฯ ในอนาคต บริษัทฯ จึงมีความประสงค์ที่จะขอเลือกไม่นำภาษีซื้อทั้งจำนวน ไปหักออกจากภาษีขายตามข้อ 3(2) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 29) เรื่องกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการเฉลี่ยภาษีซื้อตามมาตรา 82/6 แห่ง ประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2535 3. บริษัทฯ จะมีรายได้จากค่านายหน้าโดยได้รับค่านายหน้าจากการรับประกันวินาศภัย ทั้งในประเทศและต่างประเทศดังนี้ 3.1 การรับประกันภัย บริษัทฯ มีรายได้ค่านายหน้าจากการหาลูกค้าให้กับบริษัทประกันภัย ในประเทศ อัตราค่านายหน้าเป็นไปตามที่กรมการประกันภัยกำหนด ซึ่งรายได้ส่วนนี้บริษัทฯ ได้ นำมารวมคำนวณเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 7.0 3.2 การรับประกันภัยต่อบริษัทฯ ได้ดำเนินการเป็น 2 ลักษณะ ดังนี้ 3.2.1 บริษัทฯ เป็นนายหน้าหาลูกค้าให้กับบริษัทรับประกันภัยต่อในต่างประเทศ ซึ่งลูกค้าจะเป็นบริษัทประกันภัยในประเทศที่ต้องการกระจายความเสี่ยง และยังมีหน้าที่เรียกเก็บ เบี้ยประกันภัยจากบริษัทประกันภัยในประเทศนำส่งเบี้ยประกันภัยดังกล่าวให้กับบริษัทรับประกันภัย ต่อในต่างประเทศ โดยบริษัทฯ จะได้รับค่านายหน้าจากบริษัทรับประกันภัยต่อในต่างประเทศ ตาม อัตราที่ตกลงกันตามประเภทของกรมธรรม์ 3.2.2 บริษัทฯ เป็นนายหน้าหาลูกค้าให้กับบริษัทรับประกันภัยต่อในต่างประเทศ โดยลูกค้าจะเป็นบริษัทประกันภัยในต่างประเทศที่ต้องการซื้อประกันคุ้มครองความเสี่ยง (ทั้งสอง บริษัทอยู่ในต่างประเทศ) และยังมีหน้าที่เรียกเก็บเบี้ยประกันภัยจากบริษัทรับประกันภัยที่ทำประกัน แล้วนำส่งเบี้ยประกันภัยให้กับบริษัทรับประกันภัยต่อในต่างประเทศ โดยบริษัทฯ ได้รับค่านายหน้า จากบริษัทรับประกันภัยต่อในต่างประเทศ |