เมนูปิด

เลขที่หนังสือ: กค 0706/8707
วันที่: 17 ตุลาคม 2549
เรื่อง: ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีบริษัทจ่ายเงินค่าเบี้ยประกันชีวิตให้กรรมการหรือผู้ถือหุ้น
ข้อกฎหมาย: มาตรา 65 ตรี (3)(13) มาตรา 40(4) มาตรา 48(1) และมาตรา 56(5) แห่งประมวลรัษฎากร
ข้อหารือ

:      กรณีบริษัทประสงค์จะทำประกันชีวิตให้กรรมการ หรือผู้ถือหุ้นของบริษัท โดยบริษัทเป็นผู้ชำระเงินค่าเบี้ยประกันชีวิต และเป็นผู้รับผลประโยชน์จากเงินค่าสินไหมทดแทนกรณีเสียชีวิตโดยมีข้อตกลงว่า ผลประโยชน์ที่ได้รับจากการเสียชีวิตของผู้ถือหุ้นบริษัทจะนำไปซื้อหุ้นคืนจากครอบครัวของผู้ถือหุ้นที่เสียชีวิต จึงขอทราบว่า
      1. บริษัทมีสิทธินำเงินค่าเบี้ยประกันชีวิตดังกล่าว มาหักเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิได้หรือไม่
      2. เงินค่าสินไหมทดแทนที่บริษัทได้รับกรณีกรรมการ หรือผู้ถือหุ้น เสียชีวิต บริษัทจะต้องนำมาถือเป็นรายได้ในการคำนวณกำไรสุทธิหรือไม่
      3. เงินค่าเบี้ยประกันชีวิตที่บริษัทจ่ายไปกรรมการ หรือผู้ถือหุ้นจะถือเป็นเงินได้พึงประเมินต้องนำไปรวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หรือไม่ อย่างไร
      4. เงินค่าสินไหมทดแทนที่บริษัทได้รับมา เมื่อนำไปซื้อหุ้นคืนจากทายาทของผู้ถือหุ้น บริษัทมีสิทธินำมาหักเป็นค่าใช้จ่ายได้หรือไม่

แนววินิจฉัย

:      กรณีตาม 1 และ 3 เงินค่าเบี้ยประกันชีวิตของกรรมการที่บริษัทจ่ายไป หากเป็นกรณีที่บริษัทต้องจ่ายให้กับกรรมการทุกคน เป็นการทั่วไปตามระเบียบของบริษัทแล้ว บริษัทมีสิทธินำค่าเบี้ยประกันชีวิตที่ออกให้มาหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ไม่ต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี (3) และ (13) แห่งประมวลรัษฎากร และเงินค่าเบี้ยประกันชีวิตของกรรมการที่บริษัทจ่ายแทนนั้น เข้าลักษณะเป็นประโยชน์ใดๆ บรรดาที่ได้เนื่องจากการจ้างแรงงานถือเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(1) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งกรรมการต้องนำมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามมาตรา 48(1) และมาตรา 56 แห่งประมวลรัษฎากรสำหรับเงินค่าเบี้ยประกันชีวิตที่บริษัทจ่ายแทนผู้ถือหุ้น เข้าลักษณะเป็นรายจ่ายที่เป็นการส่วนตัวหรือการให้โดยเสน่หา บริษัทไม่มีสิทธินำค่าเบี้ยประกันชีวิตที่ออกให้นั้นมาถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี (3) แห่งประมวลรัษฎากรนอกจากนั้น เงินค่าเบี้ยประกันชีวิตที่บริษัทจ่ายแทน เข้าลักษณะเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 39แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งผู้ถือหุ้นจะต้องนำไปรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ในปีภาษีที่บริษัทจ่ายเงินค่าเบี้ยประกันชีวิตนั้น
      2. กรณีตาม 2 ผลประโยชน์ที่บริษัทได้รับตามกรมธรรม์ เนื่องจากกรรมการหรือผู้ถือหุ้นเสียชีวิตบริษัทต้องบันทึกบัญชีเป็นรายได้ในการคำนวณภาษีกำไรสุทธิตามมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร
      3. กรณีตาม 4 เงินค่าสินไหมทดแทนที่บริษัทได้รับเนื่องจากผู้ถือหุ้นเสียชีวิต เมื่อนำไปซื้อหุ้นคืนจากทายาทผู้ถือหุ้น เข้าลักษณะเป็นรายจ่ายที่บังเกิดผลเป็นการเพิ่มเติมทรัพย์สินของบริษัทจึงถือได้ว่าเป็นรายจ่ายอันมีลักษณะเป็นการลงทุน ซึ่งจะนำมาถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิของบริษัทไม่ได้ ต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี (5) แห่งประมวลรัษฎากร

เลขตู้:69/34596

 

 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020