ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร
เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 92)
เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์การขออนุมัติจัดทำรายการในใบกำกับภาษีเป็นภาษา ต่างประเทศ หรือเป็นหน่วยเงินตราต่างประเทศ ตามมาตรา 86/4 และมาตรา 86/6 แห่งประมวลรัษฎากร
---------------------------------------------
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 86/4 และมาตรา 86/6 แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 30) พ.ศ.2534 อธิบดีกรมสรรพากรกำหนดหลักเกณฑ์เพื่อให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนขออนุมัติจัดทำรายการในใบกำกับภาษีเป็นภาษาต่างประเทศ หรือเป็นหน่วยเงินตราต่างประเทศ ดังนี้
ข้อ 1 ให้ยกเลิกประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 35) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์การขออนุมัติออกใบกำกับภาษีเป็นภาษาต่างประเทศหรือหน่วยเงินตราต่าง ประเทศตามมาตรา 86/4 และมาตรา 86/6 แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2535
ข้อ 2 ผู้ประกอบการจดทะเบียนซึ่งจัดทำรายการในใบกำกับภาษีเป็นภาษาอังกฤษและ เป็นหน่วยเงินตราไทยตามมาตรา 86/4 และมาตรา 86/6 แห่งประมวลรัษฎากร ให้ถือว่าได้รับ อนุมัติจากอธิบดีกรมสรรพากรตามประกาศฉบับนี้
ข้อ 3 ผู้ประกอบการจดทะเบียนดังต่อไปนี้ ซึ่งต้องจัดทำใบกำกับภาษีโดยมีรายการตามที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนดตามมาตรา 86/5(1) แห่งประมวลรัษฎากร ไม่ต้องขออนุมัติจัดทำรายการในใบกำกับภาษีเป็นภาษาต่างประเทศหรือเป็นหน่วยเงินตราต่างประเทศ ตามมาตรา 86/4 และมาตรา 86/6 แห่งประมวลรัษฎากร
(1) ผู้ประกอบการจดทะเบียนซึ่งส่งออกสินค้าตามมาตรา 77/1(14) แห่งประมวลรัษฎากร และได้รับสิทธิเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 0 ตามมาตรา 80/1 (1) แห่งประมวลรัษฎากร
(2) ผู้ประกอบการจดทะเบียนซึ่งการให้บริการได้กระทำในราชอาณาจักรและได้มีการใช้บริการนั้นในต่างประเทศตามประเภท หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากร กำหนด และได้รับสิทธิเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 0 ตามมาตรา 80/1(2) แห่งประมวลรัษฎากร
ข้อ 4 ผู้ประกอบการจดทะเบียนซึ่งมีความประสงค์จัดทำรายการในใบกำกับภาษี ตามมาตรา 86/4 และมาตรา 86/6 แห่งประมวลรัษฎากร เป็นหน่วยเงินตราต่างประเทศ จะต้องได้ ้รับอนุมัติจากอธิบดีกรมสรรพากร
ข้อ 5 ให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนดังต่อไปนี้ มีสิทธิยื่นคำร้องเป็นหนังสือต่ออธิบดีกรมสรรพากรเพื่อขออนุมัติจัดทำรายการในใบกำกับภาษีตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร เป็นภาษาต่างประเทศอื่นที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ และเป็นหน่วยเงินตราต่างประเทศ
(1) ผู้ประกอบการจดทะเบียนซึ่งส่งสินค้าไปขายในต่างประเทศ แต่ผู้ประกอบการจดทะเบียนดังกล่าวไม่ได้รับสิทธิเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 0 ตามมาตรา 80/1(1) แห่งประมวลรัษฎากร
(2) ผู้ประกอบการจดทะเบียนซึ่งการให้บริการได้กระทำในราชอาณาจักร และได้มีการ ใช้บริการนั้นในต่างประเทศ แต่ไม่เป็นไปตามประเภท หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนด จึงไม่ได้รับสิทธิเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 0 ตามมาตรา 80/1(2) แห่งประมวลรัษฎากร
ผู้ประกอบการจดทะเบียนตามวรรคหนึ่ง ต้องจัดทำใบกำกับภาษีโดยมีรายการอย่างน้อยตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร และมีหน้าที่รับผิดชอบจัดการแปลเป็นภาษาไทยด้วย
"ข้อ 6 ให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนตามข้อ 4 และข้อ 5 ยื่นคำร้อง เป็นหนังสือต่ออธิบดีกรมสรรพากรผ่านสรรพากรพื้นที่ หรือสรรพากรภาคในเขตท้องที่ที่ สถานประกอบการตั้งอยู่
ในกรณีผู้ประกอบการจดทะเบียนตามวรรคหนึ่งมีสถานประกอบการหลายแห่ง ให้ยื่นคำร้องเป็นหนังสือต่ออธิบดีกรมสรรพากรผ่านสรรพากรพื้นที่ หรือสรรพากรภาค ในเขตท้องที่ที่สถานประกอบการที่เป็นสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่"
( แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 143) ใช้บังคับ 11 ตุลาคม 2545 เป็นต้นไป )
ข้อ 7 ผู้ประกอบการจดทะเบียนตามข้อ 4 และข้อ 5 จะจัดทำรายการในใบกำกับภาษีเป็นหน่วยเงินตราต่างประเทศ หรือเป็นภาษาต่างประเทศได้ จะต้องได้รับอนุมัติจากอธิบดีกรมสรรพากรก่อน
ข้อ 8 ผู้ประกอบการจดทะเบียนตามข้อ 3(2) และข้อ 5 ซึ่งได้จัดทำรายการในใบกำกับ ภาษีตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร เป็นภาษาต่างประเทศอื่นที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ และเป็นหน่วยเงินตราต่างประเทศ ก่อนวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2542 โดยไม่ได้ขออนุมัติจากอธิบดีกรมสรรพากร ให้ถือว่าได้รับอนุมัติจากอธิบดีกรมสรรพากรตามมาตรา 86/4 วรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากร
ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2542 เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2542
ร้อยเอกสุชาติ เชาว์วิศิษฐ
อธิบดีกรมสรรพากร