เมนูปิด

ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร

เกี่ยวกับอากรแสตมป์ (ฉบับที่ 23)

เรื่อง กำหนดวิธีการในการออกใบรับและใบส่งของกับยกเว้นการออกใบรับและใบส่งของในบางกรณี

 

----------------------

 

                           อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 123 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 12) พ.ศ. 2497 อธิบดีกรมสรรพากรโดยอนุมัติรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกำหนดวิธีการในการออกใบรับและใบส่งของกับยกเว้นการออกใบรับและใบส่งของในบางกรณีดังต่อไปนี้

 

                           ข้อ 1  ให้ยกเลิก

                                      (1) ประกาศกรมสรรพากร เกี่ยวกับอากรแสตมป์ (ฉบับที่ 1) เรื่อง กำหนดวิธีการในการออกใบรับและยกเว้นการออกใบส่งของในบางกรณี ลงวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2497

                                      (2) ประกาศกรมสรรพากร เกี่ยวกับอากรแสตมป์ (ฉบับที่ 2) เรื่องกำหนดวิธีการในการออกใบรับและการออกใบส่งของกับยกเว้นการออกใบส่งของในบางกรณี ลงวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2497

                                      (3) ประกาศกรมสรรพากร เกี่ยวกับอากรแสตมป์ (ฉบับที่ 3) เรื่องกำหนดวิธีการออกใบรับและยกเว้นการออกใบส่งของในบางกรณี ลงวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2498

                                      (4) ประกาศกรมสรรพากร เกี่ยวกับอากรแสตมป์ (ฉบับที่ 4) เรื่องกำหนดวิธีการให้บันทึกการรับเงินผ่อนชำระไว้ในใบส่งของได้ ลงวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2501

                                      (5) ประกาศกรมสรรพากร เกี่ยวกับอากรแสตมป์ (ฉบับที่ 5) เรื่องกำหนดวิธีการให้บันทึกการรับเงินไว้ในหนังสือแจ้งยอดเงินของธนาคารได้โดยไม่ต้องออกใบรับอีกต่างหาก ลงวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ.2501

                                      (6) ประกาศกรมสรรพากร เกี่ยวกับอากรแสตมป์ (ฉบับที่ 8) เรื่องยกเว้นการออกใบรับให้แก่ผู้ประกอบการค้ายาสูบของโรงงานยาสูบลงวันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2504

                                      (7) ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับอากรแสตมป์ (ฉบับที่ 19) เรื่อง กำหนดวิธีการในกรณีที่มีการใช้เครื่องจักรออกใบรับและใบส่งของ ลงวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2522

 

                           ข้อ 2  ในกรณีผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้ส่งออก หรือผู้ขายส่ง ปฏิบัติในการออกใบรับตามมาตรา 105 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากรนั้น เมื่อได้ออกใบส่งของ ตามมาตรา 105 จัตวา แห่งประมวลรัษฎากร ให้แก่ผู้ซื้อแล้วไม่ต้องแสดงรายการเกี่ยวกับชนิด ชื่อ จำนวน และราคาของสินค้านั้นไว้ในใบรับอีกก็ได้ แต่ต้องแสดงรายการไว้ในใบรับว่า ได้รับชำระราคาตามใบส่งของเล่มที่ (ถ้ามี) เลขที่ ลงวันเดือนปีใดเป็นจำนวนเงินเท่าใดไว้ให้ชัดเจนด้วย

 

                                      ในกรณีมิใช่บุคคลตามวรรคหนึ่งมีความประสงค์จะออกใบส่งของเพื่อไม่ต้องแสดงรายการเกี่ยวกับชนิด ชื่อ จำนวน และราคาของสินค้าไว้ในใบรับก็ให้ทำได้แต่ต้องปฏิบัติตามวรรคหนึ่ง

 

                           ข้อ 3  ในกรณีผู้ผลิต ผู้นำเข้า หรือผู้ขายส่ง ขายสินค้าเป็นเงินสดซึ่งรวมราคาที่ต้องชำระครั้งหนึ่งไม่เกิน 500 บาท จะไม่ออกใบส่งของตามมาตรา 105 จัตวา แห่งประมวลรัษฎากรก็ได้ แต่ต้องปฏิบัติในการออกใบรับให้เป็นไปตามมาตรา105 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร โดยต้องแสดงชนิด ชื่อ จำนวนและราคาสินค้าที่ขายตามที่ระบุไว้ในมาตรา 105 จัตวา (5) แห่งประมวลรัษฎากร นั้นไว้ในใบรับด้วย

 

                           ข้อ 4  ในกรณีผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้ส่งออก หรือผู้ขายส่ง ส่งสินค้าไปให้สถานการค้าสาขาหรือตัวแทนจำหน่ายโดยออกใบส่งของตามมาตรา 105 จัตวา แห่งประมวลรัษฎากร ให้แก่สถานการค้าสาขาหรือตัวแทนแล้ว เมื่อสถานการค้าสาขาหรือตัวแทนจำหน่ายสินค้านั้นต่อไป ให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องออกใบส่งของตามมาตรา 105 จัตวา แห่งประมวลรัษฎากร อีกก็ได้ แต่ต้องปฏิบัติในการออกใบรับให้เป็นไปตาม มาตรา 105 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากรและต้องแสดงชนิด ชื่อ จำนวน และราคาสินค้าที่ขายตามที่ระบุไว้ในมาตรา 105 จัตวา (5) แห่งประมวลรัษฎากร นั้นไว้ในใบรับด้วย

 

                           ข้อ 5  ผู้ประกอบการค้าซึ่งมีหน้าที่ต้องปฏิบัติในการออกใบรับตามมาตรา 105 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร หรือต้องปฏิบัติในการออกใบส่งของตามมาตรา 105 จัตวา แห่งประมวลรัษฎากร และใบรับหรือใบส่งของเช่นว่านี้จำเป็นต้องส่งไปยังผู้รับ ณ ต่างประเทศ จะแสดงข้อความในใบรับหรือใบส่งของเป็นภาษาอังกฤษแทนอักษรไทยก็ได้ แต่ทั้งนี้ไม่เสื่อมสิทธิของเจ้าพนักงานประเมินหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 3 ฉ แห่งประมวลรัษฎากร

 

                           ข้อ 6  ในกรณีผู้ผลิต ทำการขายหรือจำหน่ายผลผลิตโดยไม่มีการส่งมอบให้แก่ผู้ซื้อ เช่นการจำหน่ายกระแสไฟฟ้า และน้ำประปา เป็นต้น จะไม่ออกใบส่งของตามมาตรา 105 จัตวา แห่งประมวลรัษฎากร ก็ได้

 

                           ข้อ 7  ในกรณีผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้ส่งออก หรือผู้ขายส่ง ทำการขายปลีกสินค้าอย่างอื่นที่ผู้ประกอบการค้านั้นมิใช่เป็นผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้ส่งออกหรือผู้ขายส่งสินค้านั้น ๆ จะไม่ออกใบส่งของตามมาตรา 105 จัตวา แห่งประมวลรัษฎากร ก็ได้

 

                           ข้อ 8  ในกรณีผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้ส่งออก หรือผู้ขายส่ง จำหน่ายสินค้าเป็นเงินสดจะปฏิบัติในการออกใบรับตามมาตรา 105 ทวิ และใบส่งของตามมาตรา 105 จัตวา แห่งประมวลรัษฎากร บนกระดาษแผ่นเดียวกันและใช้เลขลำดับของเล่มและของใบรับรวมกับเลขลำดับของเล่มและของใบส่งของก็ได้

 

                           ข้อ 9  ในกรณีผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้ส่งออก หรือผู้ขายส่ง ทำการขายปลีกเป็นเงินสดซึ่งสินค้าที่ผู้ประกอบการค้านั้นเป็นผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้ส่งออก หรือผู้ขายส่งจะไม่ออกใบส่งของตามมาตรา 105 จัตวา แห่งประมวลรัษฎากรก็ได้ แต่ต้องปฏิบัติในการออกใบรับให้เป็นไปตามมาตรา 105 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร โดยต้องแสดงชนิด ชื่อ จำนวน และราคาสินค้าที่ขายตามที่ระบุไว้ในมาตรา 105 จัตวา (5)แห่งประมวลรัษฎากร นั้น ไว้ในใบรับด้วย

 

                           ข้อ 10  ในการออกใบรับตามมาตรา 105 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากรถ้าใบรับมิได้ทำเป็นเล่ม หรือทำแต่เพียงเล่มเดียว จะไม่ใส่เลขลำดับของเล่มไว้บนใบรับก็ได้ เมื่อใบรับนั้นมีเลขลำดับของใบรับติดต่อกันไปตลอดปีประดิทิน

                                        ถ้าใบรับดังกล่าวทำเกินกว่าหนึ่งเล่ม จะใช้ตัวอักษรไทยหรืออังกฤษโดยเรียงตามลำดับของตัวอักษรแทนตัวเลขลำดับของเล่มก็ได้

                                        ในกรณีที่มีเลขลำดับของเล่มดังกล่าวมาในวรรคก่อนแล้วจะตั้งต้นเรียงเลขลำดับใหม่ของใบรับแต่ละเล่มก็ได้

 

                           ข้อ 11  ในกรณีผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้ส่งออก หรือผู้ขายส่ง ได้ขายสินค้าเชื่อให้กับผู้ซื้อโดยได้ออกใบส่งของตามมาตรา 105 จัตวา แห่งประมวลรัษฎากร ให้ผู้ซื้อไปแล้ว ครั้นเมื่อเวลาเก็บเงินตามใบส่งของนั้นผู้ซื้อได้ผ่อนชำระให้เป็นคราว ๆ ซึ่งผู้ขายไม่อาจจะออกใบรับให้เต็มตามจำนวนเงินในใบส่งของได้ ในกรณีเช่นนี้ ถ้าผู้ขายจะบันทึกการรับเงินนั้นไว้ในใบส่งของที่ได้ออกให้แก่ผู้ซื้อในทันทีทุกคราวที่ได้รับเงินก็ให้กระทำได้

                                        การบันทึกรับเงินผ่อนชำระตามวรรคแรกไม่ต้องทำต้นขั้วหรือสำเนาไว้และไม่ต้องแสดงข้อความตามมาตรา 105 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร แต่ให้แสดงเฉพาะจำนวนเงินที่ได้รับและวันเดือนปีที่ได้รับเท่านั้น

                                        เมื่อได้รับเงินผ่อนชำระครบถ้วนตามใบส่งของแล้ว ผู้ขายจะต้องออกใบรับแสดงการรับเงินทั้งสิ้นให้ผู้ซื้ออีกฉบับหนึ่ง

 

                           ข้อ 12  ในกรณีผู้ขายสินค้ายาสูบของโรงงานยาสูบ ให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องออกใบรับ ตามมาตรา 105 (2) แห่งประมวลรัษฎากร

 

                           ข้อ 13  ในกรณีที่ผู้ประกอบการค้าได้ส่งสินค้าไปขายให้ผู้ซื้อในต่างประเทศเมื่อผู้ซื้อได้ชำระราคาสินค้าโดยวิธีโอนเงินเข้าธนาคารในต่างประเทศแล้ว ธนาคารในต่างประเทศก็จะโอนเงินมาเข้าธนาคารในประเทศ เพื่อนำเงินเข้าบัญชีเงินฝากของผู้ขายในประเทศไทย ในกรณีนี้ธนาคารในประเทศไทยจะมีหนังสือแจ้งยอดเงินที่นำเข้าบัญชีให้ผู้ขายทราบ เมื่อผู้ขายได้รับหนังสือแจ้งยอดเงินจากธนาคาร ให้ผู้ขายบันทึกการรับเงินไว้ในหนังสือนั้น โดยใช้คำว่า “จ่ายแล้ว” หรือ “ได้รับชำระแล้ว” โดยไม่ต้องออกใบรับตามมาตรา 105(1) แห่งประมวลรัษฎากร อีกต่างหากได้

 

                           ข้อ 14  ในกรณีผู้มีหน้าที่ออกใบรับตามมาตรา 105 แห่งประมวลรัษฎากรซึ่งใบรับนั้นต้องมีข้อความตามมาตรา 105 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร และผู้มีหน้าที่ออกใบส่งของตามมาตรา 105 จัตวา แห่งประมวลรัษฎากร ใช้เครื่องจักรในการออกใบรับและใบส่งของ ใบรับและใบส่งของที่ออกด้วยเครื่องจักรนั้นจะไม่ลงข้อความชื่อหรือยี่ห้อของผู้ซื้อและชนิด ชื่อสินค้าในใบรับและใบส่งของที่ต้องออกดังกล่าว เป็นอักษรไทยก็ได้ แต่ต้องลงข้อความ ชื่อหรือยี่ห้อของผู้ซื้อเป็นอักษรที่ใช้ในภาษาอังกฤษและลงข้อความชนิดชื่อสินค้าเป็นรหัสตัวเลขอารบิคหรืออักษรที่ใช้ในภาษาอังกฤษ

                                        ให้ผู้มีหน้าที่ออกใบรับและใบส่งของที่ได้ปฏิบัติตามวรรคหนึ่งเก็บรักษาคำแปลรหัสและคำแปลอักษรที่ใช้ในภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทยไว้ ณ สำนักงานของผู้มีหน้าที่ออกใบรับและใบส่งของดังกล่าว และพร้อมที่จะแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามที่พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องการ

 

ประกาศ ณ วันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2527

 

วิทย์ ตันตยกุล

อธิบดีกรมสรรพากร

 

 

(ร.จ. เล่ม 101 ตอนที่ 176 วันที่ 27 พฤศจิกายน 2527)

 

ปรับปรุงล่าสุด: 01-11-2022