เมนูปิด

เลขที่หนังสือ: กค 0706(กม.01)/1990
วันที่: 28 มิถุนายน 2550
เรื่อง: ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาค
ข้อกฎหมาย: มาตรา 8 แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 405) พ.ศ. 2545
ข้อหารือ          1. กรณีบริษัทเป็นนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ประสงค์จะขอจดแจ้งเป็นสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาคเพื่อให้ได้ รับสิทธิประโยชน์ตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 405) พ.ศ. 2545 โดยบริษัทมีการประกอบกิจการ ทั้งกิจการสำนักงานปฏิบัติ การภูมิภาค (กิจการ ROH) และกิจการอื่น (กิจการ Non-ROH) ในการพิจารณาคุณสมบัติตามมาตรา 10(3) แห่งพระราชกฤษฎีกา ฉบับดังกล่าว ซึ่งกำหนดว่า บริษัทจะต้องมีรายได้จากการให้บริการตามมาตรา 8(1) และค่าสิทธิตามาตรา 8(3) ที่จ่ายจากหรือ ในต่างประเทศไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของรายได้ทั้งหมด นั้น คำว่า "รายได้ทั้งหมด" จะหมายถึง รายได้ทั้งหมดของบริษัท หรือ รายได้ทั้งหมดเฉพาะในส่วนที่ได้รับจากกิจการ ROH เท่านั้น
          2. กรณีบริษัทเป็นนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย และได้ประกอบกิจการอยู่ก่อนแล้ว โดยมีรอบระยะเวลาบัญชี เริ่มตั้งแต่ 1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคม ของทุกปี ต่อมาในระหว่างรอบระยะเวลาบัญชีปี 2549 บริษัทดังกล่าวได้ขอจดแจ้ง เป็นสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาคกับกรมสรรพากรตามมาตรา 10(5) แห่งพระราชกฤษฎีกาฉบับดังกล่าว เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2549 ในกรณีนี้ สิทธิประโยชน์ทางภาษีในการลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาค และการลดอัตรา ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับคนต่างด้าวที่ทำงานประจำสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาค กรณีที่ยอมให้หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายในอัตรา 15.0 ของเงินได้ นั้น จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2549 (ซึ่งเป็นวันแรกของรอบระยะเวลาบัญชีที่มีการจดแจ้ง) หรือ วันที่ 1 ธันวาคม 2549 (ซึ่งเป็นวันที่กรมสรรพากรได้รับจดแจ้ง)
แนววินิจฉัย          1. สิทธิประโยชน์ทางภาษีในการลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลให้แก่สำนักงานปฏิบัติการภูมิภาคสำหรับรายได้ที่ กำหนดตามมาตรา 8 แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 405) พ.ศ. 2545 นั้น เป็นสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ให้แก่นิติบุคคลที่เป็นสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาค มิใช่สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ให้แก่กิจการ ดังนั้น หากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลอื่นซึ่งประกอบกิจการในลักษณะเดียวกับกิจการ ROH แต่มีคุณสมบัติไม่ครบถ้วน และมิได้ขอจดแจ้งการเป็นสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาคแล้วตามมาตรา 10 แห่งพระราชกฤษฎีกาฉบับดังกล่าว ประกอบกับประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 109) เรื่องกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการลดอัตราและยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลของบริษัทซึ่ง ประกอบกิจการสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาค ลงวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2545 บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลอื่นนั้นย่อมไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ลดอัตราภาษีตามพระราชกฤษฎีกาฉบับดังกล่าวแต่อย่างใดกรณีบริษัทซึ่งเป็นนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตาม กฎหมายไทย และได้ประกอบกิจการทั้งกิจการ ROH และ กิจการอื่น (Non-ROH) หากมีความประสงค์จะขอจดแจ้งเป็น สำนักงานปฏิบัติการภูมิภาค ย่อมสามารถกระทำได้ โดยในการพิจารณาว่า บริษัทดังกล่าวมีคุณสมบัติของสำนักงาน ปฏิบัติการภูมิภาคตามมาตรา 10 แห่งพระราชกฤษฎีกาฉบับดังกล่าวครบถ้วนหรือไม่ บริษัทดังกล่าวต้องมีรายได้ตาม มาตรา 8 (1) และ (3) แห่งพระราชกฤษฎีกาฉบับดังกล่าวที่จ่ายจากหรือในต่างประเทศรวมกันไม่น้อยกว่าร้อยละห้าสิบ ของรายได้ทั้งหมดเว้นแต่ภายในระยะเวลาสามรอบระยะเวลาบัญชีแรกนับแต่รอบระยะเวลาบัญชีที่จดแจ้งการเป็น สำนักงานปฏิบัติการภูมิภาคอาจมีรายได้ดังกล่าวไม่ถึงร้อยละห้าสิบก็ได้ แต่ต้องไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามของรายได้ทั้งหมด ในกรณีนี้ ความหมายของคำว่า "รายได้ทั้งหมด" ตามมาตรา 10(3) แห่งพระราชกฤษฎีกาฉบับดังกล่าว หมายความถึง รายได้ทั้งหมดของบริษัทซึ่งขอจดแจ้งเป็นสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาค ทั้งที่ได้รับจากกิจการ ROH และกิจการอื่นรวมกัน
          2. กรณีบริษัทประกอบกิจการอยู่ก่อนโดยมีรอบระยะเวลาบัญชีเริ่มตั้งแต่ 1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคม ต่อมาในระหว่างรอบระยะเวลาบัญชี 2549 บริษัทดังกล่าวขอจดแจ้งเป็นสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาคกับกรมสรรพากรตามมาตรา 10(5) แห่งพระราชกฤษฎีกาฉบับดังกล่าว เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2549 จะมีสิทธิประโยชน์ทางภาษีดังนี้
               2.1 เนื่องจากข้อ 6 ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 109)ฯ ลงวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2545 กำหนดให้ บริษัทซึ่งประกอบกิจการสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาค ได้แจ้งการจัดตั้งสำนักงาน ปฏิบัติการภูมิภาคในรอบระยะเวลาบัญชีใดให้ได้รับสิทธิลดอัตราและยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 405) พ.ศ. 2545 ตั้งแต่รอบระยะเวลาบัญชีนั้นเป็นต้นไป ดังนั้น ในกรณีนี้ บริษัทดังกล่าวจึงมีสิทธิได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีตามพระราชกฤษฎีกาฉบับดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ของรอบระยะเวลาบัญชีปี 2549 เป็นต้นไป
               2.2 สำหรับคนต่างด้าวซึ่งจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีต้องเป็นคนต่างด้าวที่ทำงานประจำสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาคที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามกฎหมาย ทั้งนี้ ตามมาตรา 4 มาตรา 5 มาตรา 6 และมาตรา 10 แห่ง พระราชกฤษฎีกาฉบับดังกล่าว สำหรับกรณีนี้ สิทธิในการได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีของคนต่างด้าวจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2549 เป็นต้นไป ซึ่งสอดคล้องกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีของสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาค
เลขตู้: 70/35082

 

 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020