เลขที่หนังสือ | : กค 0702/1314 |
วันที่ | : 19 กุมภาพันธ์ 2552 |
เรื่อง | : อากรแสตมป์ กรณีการชำระอากรแสตมป์สำหรับกรมธรรม์ประกันภัยเพื่อการประกันภัยแท่นขุดเจาะก๊าซธรรมชาติ ในเขตพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย |
ข้อกฎหมาย | : มาตรา 104 แห่งประมวลรัษฎากร |
ข้อหารือ | บริษัทฯ ได้ร่วมกับบริษัทประกันภัยของประเทศมาเลเซีย รับประกันภัยแท่นขุดเจาะก๊าซธรรมชาติที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย บริษัทฯ ขอหารือว่า
1. กรณีบริษัทฯ ได้ร่วมกับบริษัทประกันภัยของประเทศมาเลเซีย รับประกันภัยแท่นขุดเจาะก๊าซธรรมชาติ โดย บริษัทฯ และบริษัทประกันภัยของประเทศมาเลเซียได้ร่วมกันทำและออกกรมธรรม์ประกันภัยที่ประเทศมาเลเซีย บริษัทฯ มีหน้าที่ต้องชำระอากรแสตมป์สำหรับกรมธรรม์ประกันภัยฉบับที่ได้จัดทำขึ้นหรือไม่ อย่างไร 2. กรณีบริษัทฯ หรือบุคคลอื่นได้รับหรือนำคู่ฉบับหรือสำเนากรมธรรม์ประกันภัยฉบับนั้นๆ เข้ามาในประเทศไทย บริษัทฯ หรือบุคคลอื่นมีหน้าที่ต้องชำระอากรแสตมป์หรือไม่ อย่างไร | แนววินิจฉัย | กรมธรรม์ประกันภัยเข้าลักษณะเป็นตราสารตามลักษณะตราสาร 6 แห่งบัญชีอัตราอากรแสตมป์ท้ายประมวลรัษฎากร อันอยู่ในบังคับต้องปิดอากรแสตมป์หากได้จัดทำขึ้นในประเทศไทย ตามมาตรา 104 แห่งประมวลรัษฎากร ดังนั้น
1. กรณีกรมธรรม์ประกันภัยได้ทำขึ้นที่ประเทศมาเลเซียซึ่งถือว่า เป็นตราสารที่ได้จัดทำขึ้นในต่างประเทศ กรมธรรม์ประกันภัยดังกล่าวจึงไม่อยู่ในบังคับต้องเสียอากรแสตมป์ตามประมวลรัษฎากรในขณะที่ได้จัดทำ อย่างไรก็ตาม หากมีการนำกรมธรรม์ประกันภัยไม่ว่าจะเป็นการนำต้นฉบับ คู่ฉบับ หรือคู่ฉีกเข้ามาในประเทศไทย กรมธรรม์ประกันภัย ฉบับนั้นจะอยู่ในบังคับต้องชำระอากรแสตมป์ โดยเป็นหน้าที่ของผู้ทรงตราสารคนแรกในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นคู่สัญญา ตามกรมธรรม์ประกันภัยหรือเป็นบุคคลอื่นใดที่ได้รับกรมธรรม์ประกันภัยเพื่อใช้ประโยชน์ตามเนื้อความในกรมธรรม์ ต้อง ชำระอากรแสตมป์ตามจำนวนอากรและขีดฆ่าภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับกรมธรรม์ประกันภัยนั้น ตามมาตรา 111 แห่งประมวลรัษฎากร 2. กรณีมีการนำสำเนากรมธรรม์ประกันภัยที่ทำขึ้นในประเทศมาเลเซียเข้ามาใช้ประโยชน์ในประเทศไทย เนื่องจาก สำเนาเอกสารไม่มีสภาพเป็นคู่ฉบับหรือคู่ฉีกของตราสาร สำเนากรมธรรม์ประกันภัยจึงไม่อยู่ในบังคับต้องเสียอากรแสตมป์ ตามประมวลรัษฎากร |
เลขตู้ | : 72/36416 |