เมนูปิด
เลขที่หนังสือ: กค 0702/6996
วันที่: 27 สิงหาคม 2552
เรื่อง: ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีการออกจากงานเพราะเหตุเกษียณอายุก่อนกำหนด
ข้อกฎหมาย: ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 52)ฯ
ข้อหารือ          1. นาย อ. เป็นพนักงานซึ่งออกจากงานเพราะเกษียณอายุก่อนกำหนด ในขณะมีอายุ 59 ปี อายุการทำงาน 37 ปี 352 วัน ระยะเวลาเป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 11 ปี 243 วัน ได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปีภาษี 2551 ทางอินเตอร์เน็ต เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2552 ขอคืนภาษีจำนวน 62,122.20 บาท เจ้าพนักงานได้ตรวจสอบพบว่า ในปีดังกล่าว มีเงินได้ดังนี้
              (1) เงินเดือนและเงินได้เนื่องจากเหตุออกจากงาน
              (2) เงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน M ในฐานะบริษัทจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พนักงานฯ ซึ่งปรากฏตามหลักฐานตามหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ของบริษัทฯ พบว่า นาย อ. มีเงินได้จากกองทุนสำรอง เลี้ยงชีพ จำนวน 3,045,109.41 บาท ออกจากงานเพราะเหตุเกษียณอายุ
          2. นาย อ. ได้ออกจากงานเพราะเกษียณอายุก่อนกำหนด ตามคำสั่งฯ เรื่อง ให้พนักงานพ้นจากตำแหน่งตามประกาศ โครงการร่วมใจจากองค์กรประจำปีงบประมาณ 2551 ลงวันที่ 20 มิถุนายน 2551 โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2551 ทั้งนี้ ตามมติคณะกรรมการฯ ครั้งที่ 2/2551 ลงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2551
          3. ฟ. ได้มีข้อบังคับ ฟ. ว่าด้วยระเบียบพนักงาน (ฉบับที่ 18) พ.ศ. 2551 แก้ไขเพิ่มเติมข้อ 33 ของระเบียบข้อบังคับ ฟ. โดยแก้ไขการกำหนดเกษียณอายุของพนักงานมี 2 กรณี ดังนี้
              (1) เกษียณเมื่อมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ ให้พนักงานพ้นสภาพการเป็นพนักงานเมื่อสิ้นปีงบประมาณตามกฎหมาย ว่าด้วยวิธีการงบประมาณของปีที่พนักงานผู้นั้นมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์
              (2) เกษียณอายุก่อนครบกำหนด 60 ปีบริบูรณ์ ตามข้อตกลงที่ ฟ. กำหนดโดย ฟ. และพนักงานมีข้อตกลงร่วมกัน และพนักงานต้องมีคุณสมบัติตามที่ ฟ. กำหนดข้อบังคับนี้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 24 เมษายน 2551 เป็นต้นไป
          4. ฟ. แจ้งเวียนให้พนักงานทราบว่า กรณีพนักงานที่สมัครใจเข้าร่วมโครงการร่วมใจจากองค์กร (ซึ่งเป็นการออกจากงาน เพราะเกษียณอายุก่อนครบ 60 ปีบริบูรณ์) จะได้รับยกเว้นการจัดเก็บภาษีในส่วนของเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หากมีอายุไม่ ต่ำกว่า 55 ปีบริบูรณ์และเป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี จึงทำให้นาย อ. ไม่นำเงินได้ที่ได้รับจาก กองทุนฯ จำนวน 3,045,109.41 บาท มารวมคำนวณในการเสียภาษีดังกล่าว
แนววินิจฉัย          กรณีการออกจากงานเพราะครบกำหนดหรือสิ้นกำหนดเวลาทำงานตามสัญญาจ้างแรงงานที่เป็นลายลักษณ์อักษรจะต้องเป็น กรณีที่นายจ้างมีข้อบังคับกำหนดให้ลูกจ้างเกษียณอายุก่อนกำหนดไว้ตั้งแต่แรก การที่นายจ้างตกลงให้ลูกจ้างเกษียณอายุก่อน กำหนดในภายหลัง ไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งสอดคล้องกับคำพิพากษาศาลฎีกา ดังนั้น หากตามข้อบังคับของ ฟ. กำหนดให้พนักงานเกษียณอายุเมื่อมีอายุครบ 60ปี บริบูรณ์ ต่อมา ฟ. ได้มีข้อกำหนดให้ ฟ. กับ พนักงานมีการตกลงกันภายหลังเพื่อให้พนักงานออกจากงานตามโครงการลาออกก่อนมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ ถือได้ว่าข้อตกลง ตามข้อบังคับของ ฟ. ดังกล่าว มิได้เป็นข้อบังคับที่ได้กำหนดไว้แต่แรก ไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามข้อ 1(1)ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 52)ฯ ลงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2538
เลขตู้: 72/36822

 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020