เมนูปิด
เลขที่หนังสือ: กค 0702/6803
วันที่: 21 สิงหาคม 2552
เรื่อง: ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ กรณีกิจการของ กองทุนประกันวินาศภัย
ข้อกฎหมาย: มาตรา 39 มาตรา 85/1 และมาตรา 104 แห่งประมวลรัษฎากร
ข้อหารือ          กองทุนฯ ได้จัดตั้งเป็นนิติบุคคล ตามมาตรา 79 แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 ประกอบกับพระราชบัญญัติ ประกันวินาศภัย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 มีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองเจ้าหนี้ซึ่งมีสิทธิได้รับชำระหนี้ที่เกิดจากการเอาประกันภัย ในกรณี บริษัทที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยล้มละลาย หรือถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย และเพื่อ พัฒนาธุรกิจประกันวินาศภัยให้มีความมั่นคงและเสถียรภาพ โดยกองทุนฯ ไม่ได้เป็นส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ ตามกฎหมายว่าด้วย วิธีการงบประมาณ กองทุนฯ อาจหาประโยชน์จากทรัพย์สินของกองทุนฯ และสามารถให้บริษัทประกันวินาศภัยกู้ยืมเงินเพื่อประโยชน์ ในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ ซึ่งทรัพย์สินของกองทุนฯ ประกอบด้วย
          1. เงินและทรัพย์สินที่ได้รับโอนจากกองทุนเพื่อพัฒนาธุรกิจประกันวินาศภัยของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและ ส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย
          2. เงินค่าสินไหมทดแทนที่ผู้รับประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันภัยไม่ได้เรียกร้องภายในอายุความซึ่งบริษัทประกันภัย ได้นำส่งเข้ากองทุน
          3. เงินนำส่งเข้ากองทุนจากบริษัทประกันวินาศภัย
          4. เงินเพิ่ม กรณีบริษัทไม่นำส่งเงินค่าสินไหมทดแทนจนพ้นอายุความตามข้อ 2. หรือเงินนำส่งของกองทุนตามข้อ 3. ให้ถูกต้องครบถ้วน
          5. เงินค่าปรับหลังจากหักเงินสินบนรางวัลและค่าใช้จ่ายในการดำเนินการแล้ว
          6. ดอกผลหรือรายได้จากเงินหรือทรัพย์สินของกองทุน
          7. เงินสนับสนุนจากรัฐบาล
          กองทุนฯ จึงขอทราบว่า กองทุนฯ มีฐานะเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามมาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากร หรือไม่ และมีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีธุรกิจเฉพาะหรือไม่ หากกองทุนฯ ได้จัดทำตราสารตามที่กำหนดใน บัญชีอัตราอากรแสตมป์ จะได้รับยกเว้นอากรแสตมป์หรือไม่
แนววินิจฉัย          1. ภาษีเงินได้นิติบุคคล กองทุนฯ มิได้เป็นหน่วยงานของรัฐ แต่มีฐานะเป็นนิติบุคคลตามมาตรา 79 แห่งพระราชบัญญัติประกัน วินาศภัย พ.ศ. 2535 จึงไม่เข้าลักษณะเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ตามมาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากร ดังนั้น กองทุนฯ จึงไม่มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามประมวลรัษฎากรแต่อย่างใด
          2. ภาษีมูลค่าเพิ่ม หากกองทุนฯ มีการขายสินค้าหรือให้บริการตามมาตรา 77/1 (8)(9) และ (10) แห่งประมวลรัษฎากร และ มีรายรับจากการขายสินค้าหรือให้บริการเกิน 1,800,000 บาทต่อปี ต้องยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ มีมูลค่าของฐานภาษีเกิน 1,800,000 บาทต่อปี ตามมาตรา 85/1 แห่งประมวลรัษฎากร และมีหน้าที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษี มูลค่าเพิ่มและชำระภาษีมูลค่าเพิ่มภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป ตามมาตรา 82(1) และมาตรา 83 แห่งประมวลรัษฎากร
          3. ภาษีธุรกิจเฉพาะ หากกองทุนฯ ประกอบกิจการในราชอาณาจักรและการประกอบกิจการดังกล่าว เข้าลักษณะเป็นกิจการ ที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะตามมาตรา 91/2 แห่งประมวลรัษฎากร เช่น การให้กู้ยืมเงิน กองทุนฯ มีหน้าที่นำรายรับดังกล่าวไปเสีย ภาษีธุรกิจเฉพาะ
          4. อากรแสตมป์ หากกองทุนฯ ได้ทำตราสารซึ่งเข้าลักษณะตามที่ระบุในบัญชีอัตราอากรแสตมป์ กองทุนฯ มีหน้าที่ต้องเสีย อากรแสตมป์ตามอัตราที่กำหนดไว้ในบัญชีอัตราอากรแสตมป์ ตามมาตรา 104 แห่งประมวลรัษฎากร โดยกองทุนฯ ไม่ได้รับยกเว้น ตามมาตรา 121 แห่งประมวลรัษฎากร แต่อย่างใด
เลขตู้: 72/36809

 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020