เมนูปิด
เลขที่หนังสือ: กค 0702/พ./2547
วันที่: 5 เมษายน 2553
เรื่อง: ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการให้บริการตรวจมาตรฐานเรือแบบเหมาจ่าย
ข้อกฎหมาย: มาตรา 80/1(2) และมาตรา 80 แห่งประมวลรัษฎากร
ข้อหารือ          1. ล. เป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายของประเทศสหราชอาณาจักรอังกฤษ มีสำนักงานสาขาอยู่ทั่วโลก และได้เข้ามาจัดตั้งสาขาในประเทศไทย (สาขากรุงเทพฯ) ประกอบกิจการให้บริการเกี่ยวกับการตรวจมาตรฐานเรือเดินสมุทรและ โรงงานอุตสาหกรรม สาขากรุงเทพฯ ได้ทำสัญญาให้บริการตรวจสอบสภาพเรือกับลูกค้าเจ้าของเรือที่เป็นบริษัทที่จดทะเบียนใน ประเทศไทยหรือบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์ ลูกค้าดังกล่าวสามารถใช้บริการตรวจสอบสภาพเรือกับสาขากรุงเทพฯ หรือสาขาต่างประเทศได้ เมื่อครบกำหนดตรวจสภาพ หากเรือเดินทางไปต่างประเทศ ลูกค้าสามารถจอดตรวจสอบสภาพเรือที่ สาขาต่างประเทศ ในกรณีดังกล่าวสาขากรุงเทพฯ จะแจ้งให้สาขาต่างประเทศเป็นผู้ให้บริการในนาม สาขากรุงเทพฯ
          2. การคิดค่าบริการตามสัญญาบริการ ไม่ได้แยกส่วนของการให้บริการในประเทศและต่างประเทศ สาขากรุงเทพฯ จะ เรียกเก็บเงินลูกค้าเมื่อสิ้นสุดการให้บริการ หรือตามสัญญาแบบเหมาจ่ายเป็นรายปี และออกใบกำกับภาษีซึ่งรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ในอัตราร้อยละ 7.0 รายการที่อยู่นอกเหนือสัญญาเหมาจ่ายจะเรียกเก็บเงินเมื่องานสิ้นสุด การเรียกเก็บเงินตามสัญญาเหมาจ่าย แต่ละครั้ง จะไม่คำนึงถึงสถานที่ จำนวนครั้งที่ให้บริการ และการให้บริการของแต่ละประเทศไม่เท่ากัน โดยสาขากรุงเทพฯ รับรู้ค่าบริการตามสัญญาบริการทั้งหมดเป็นรายได้ สาขากรุงเทพฯ ขอทราบว่า กรณีที่ลูกค้าเจ้าของเรือที่เป็นบริษัทจดทะเบียนใน ประเทศไทยหรือบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์ที่มีสัญญาให้บริการแบบเหมาจ่ายโดยตรงกับสาขากรุงเทพฯ เพื่อตรวจสภาพเรือ ไม่คำนึงถึงสถานที่ การออกใบแจ้งหนี้เพื่อเรียกเก็บเงินตามสัญญาเหมาจ่าย จะต้องเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่
แนววินิจฉัย          กรณีที่สาขากรุงเทพฯ ได้ให้บริการตรวจมาตรฐานเรือแบบเหมาจ่ายแก่ลูกค้าเจ้าของเรือที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในประเทศไทยหรือบริษัทจดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์ ตามข้อเท็จจริงข้างต้น เข้าลักษณะเป็นการให้บริการที่กระทำในราชอาณาจักร สาขากรุงเทพฯ จึงมีหน้าที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 7.0 ตามมาตรา 80 แห่งประมวลรัษฎากร
เลขตู้: 73/37244

 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020