เมื่อปี พศ.2531 อดีตข้าราชการสรรพากรกลุ่มหนึ่งได้รวมตัวกันก่อตั้ง "ชมรมอดีตข้าราชการสรรพกร" เพื่อเป็นศูนย์กลางของข้าราชการที่เกษียณอายุในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคโดยนัดพบปะสังสรรค์ 2 - 3 เดือนต่อครั้ง มีนายเจิม จันทพันธ์ อดีตผู้อำนวยกองการเจ้าหน้าที่ กรมสรรพากรเป็นประธานชมรม สำนักงานตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 180/72 ถนนเพชรเกษม ซอย 55 เขตบางแค กรุงเทพมหานคร (ซึ่งเป็นบ้านพักของนายเจิม จันทพันธ์)
ต่อมา เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2549 ที่ประชุมชมรมฯมีมติเอกฉันท์ เลือกร้อยเอกสุชาติ เชาว์วิศิษฐ อดีตอธิบดีกรมสรรพากร,รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง,รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง,และอดีตรองนายกรัฐมนตรีให้ดำรงตำแหน่งประธานชมรมอดีตข้าราชการสรรพากรแทนประธานคนเดิม ซึ่งอยู่ในตำแหน่งยาวนานถึง 18 ปี (ประธานชมรมดำรงตำแหน่งได้คราวละ 2 ปี)
ชมรมได้ยื่นคำขอจเทะเบียนเป็นสมาคมและได้รับอนุมัติจากนายทะเบียนกรุงเทพมหานครให้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2550 ใช้ชื่อว่า "สมาคมข้าราชการสรรพากร"
ที่ตั้ง สำนักงานสมาคม:
ชั้น 2 อาคารจอดรถและสวัสดิการกรมสรรพากร
เลขที่ 90 ถนนพหลโยธิน ซอย 7
เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400
โทร. 0-2272-8162 โทรสาร 0-2272-9717
มือถือ 08-5388-2838
คณะกรรมการสมาคมทำหน้าที่บริหาร อยู่ในตำแหน่งคราวละ 2ปี โดยมีร้อยเอกสุชาติ เชาว์วิศิษฐ เป็นนายกสมาคมคนแรกและได้โอนสมาชิกชมรมไปเป็นสมาชิกสมาคมทุกราย ร้อยเอกสุชาติฯ ได้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมเพียงปีเศษ ก็ถึงแก่กรรม สมาชิกสมาคมได้เลือก นายวีระชัย ตันติกุล เป็นนายกสมาคมประจำปี 2553 - 2554 และเมื่อพ้นวาระแล้วสมาชิกได้เลือกนายวินัย วิทวัสการเวช เป็นนายกสมาคมคนใหม่ เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2555 ซึ่งนายกได้แต่งตั้งกรรมการสมาคมชุดใหม่ ประจำปีอ พ.ศ.2555 -2556 เพื่อบริหารงานสมาคมและเชิญข้าราชการอาวุโสเป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการสมาคมประจำปี พ.ศ.2555 - 2556 เพิ่มเติม นอกจากนี้นายกสมาคมได้มอบหมายให้คณะกรรมการสมาคมฝ่ายต่างๆ แต่งตั้งอนุกรรมการช่วยบริหารงานของสมาคมอีกทางหนึ่งด้วย
ประวัติกองทุนสมาคมข้าราชการสรรพากร
จากการรวมตัวกันก่อตั้งชมรมอดีตข้าราชการสรรพากรในปี พ.ศ.2531 ปรากฏว่าชมรมมีเงินเหลือจ่ายจำนวนหนึ่งจากการดำเนินการและเงินที่สมาชิกได้บริจาคเป็นค่าใช้จ่ายของชมรม คณะกรรมการบริหารชมรมจึงได้ก่อตั้ง "กองทุนชมรมอดีตข้าราชการสรรพากร"ขึ้น
เมื่อชมรมได้รับอนุมัติให้จดทะเบียนเป็นสมาคมข้าราชการสรรพากร เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2550 จึงได้โอนเงินกองทุนชมรมอดีตข้าราชการสรรพากรเป็น "กองทุนสมาคมข้าราชการสรรพากร" ปัจจุบันมีกองทุนจำนวน 127 กองทุน