เมนูปิด

กลุ่มงานคุ้มครองจริยธรรม

ที่มา

สืบเนื่องจากรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 หมวด 11 ซึ่งเป็นหมวดที่ว่าด้วยจริยธรรม ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และเจ้าหน้าที่ของรัฐ มาตรา 279 ได้กำหนดให้มาตรฐานทางจริยธรรม ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ข้าราชการ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐแต่ละประเภท ให้เป็นไปตามประมวลจริยธรรมที่กำหนดขึ้น โดยจะต้องมีกลไกและระบบในการดำเนินงานเพื่อให้การบังคับใช้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งกำหนดขั้นตอนการลงโทษตามความร้ายแรงแห่งการกระทำ การฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรม ให้ถือเป็นการกระทำผิดทางวินัย และการพิจารณา สรรหา กลั่นกรอง หรือแต่งตั้งบุคคลใด เข้าสู่ตำแหน่ง ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการใช้อำนาจรัฐ รวมทั้งการโยกย้าย การเลื่อนตำแหน่ง การเลื่อนเงินเดือน และการลงโทษบุคคลนั้น จะต้องเป็นไปตามระบบคุณธรรม และคำนึงถึงพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลดังกล่าวด้วย และมาตรา 280 กำหนดให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน มีอำนาจหน้าที่เสนอแนะหรือให้คำแนะนำในการจัดทำหรือปรับปรุงประมวลจริยธรรมตามมาตรา 279

ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปตามมาตรา 279 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ประกอบค่านิยมหลัก สำหรับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้ให้คำแนะนำให้หน่วยงานทั้งหลายถือปฏิบัติ ก.พ. โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี จึงกำหนดมาตรฐานทางจริยธรรม ขึ้นเป็นประมวลจริยธรรมข้าราชการพลเรือน เป็นมาตรฐานกลาง เพื่อให้ข้าราชการทั้งหลายยึดถือเป็นแนวทางประพฤติตน และปฏิบัติหน้าที่ราชการ เพื่อให้เกิดสำนึกลึกซึ้ง และเที่ยงธรรมในหน้าที่ ผดุงเกียรติ และศักดิ์ศรีข้าราชการให้ควรแก่ความไว้วางใจ และเชื่อมั่นของประชาชน และดำรงตนตั้งมั่น เป็นแบบอย่างที่ดีงาม

ตามประมวลจริยธรรมข้าราชการพลเรือน ข้อ 14 ได้กำหนดให้ ก.พ. โดยข้อเสนอของหัวหน้าส่วนราชการ แต่งตั้ง “คณะกรรมการจริยธรรมประจำส่วนราชการ” เพื่อควบคุม กำกับให้มีการปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมข้าราชการพลเรือน ซึ่งในส่วนของกรมสรรพากร ก.พ. ได้มีประกาศเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2552 แต่งตั้งคณะกรรมการจริยธรรมประจำกรมสรรพากร ประกอบด้วย

นายศานิต ร่างน้อยผู้ทรงคุณวุฒิประธานกรรมการ

นายเจริญ ธฤติมานนท์ผู้ทรงคุณวุฒิกรรมการ

นายบุญรอด โบว์เสรีวงศ์ผู้ทรงคุณวุฒิกรรมการ

นางจิตรมณี สุวรรณพูลรองอธิบดีกรรมการ

นางสาวจำรัส แหยมสร้อยทองรองอธิบดีกรรมการ

นายวสันต์ วัฒนศิริผู้อำนวยการสำนักบริหารทรัพยากรบุคคลกรรมการ

นายสุรชาญ ต่างวิวัฒน์สรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร ๒๘กรรมการ

นายอนันต์ สิริแสงทักษิณรองอธิบดี ในฐานะหัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองจริยธรรมเลขานุการ (โดยตำแหน่ง)

และตามประมวลจริยธรรมข้าราชการพลเรือน ข้อ 17 ได้กำหนดให้ส่วนราชการจัดตั้ง กลุ่มงานคุ้มครองจริยธรรมขึ้นตรงต่อหัวหน้าส่วนราชการ มีหน้าที่คุ้มครองจริยธรรมตามประมวลจริยธรรมข้าราชการพลเรือน มีความเป็นอิสระ โดยให้ข้าราชการซึ่งดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับต้นขึ้นไปเป็นหัวหน้ากลุ่ม (และเป็นเลขานุการคณะกรรมการจริยธรรมประจำส่วนราชการ) ต่อมา คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2552 ให้จัดตั้งกลุ่มงานคุ้มครองจริยธรรมขึ้นภายในหน่วยงานการเจ้าหน้าที่ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบครอบคลุมภารกิจบริหารงานบุคคลในภาพรวมทั้งระบบอยู่แล้ว

 เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของประมวลจริยธรรมข้าราชการพลเรือนและมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวข้างต้น กรมสรรพากรจึงมีคำสั่ง ที่ ท.196/2553 ลงวันที่ 7 พฤษภาคม 2553 จัดตั้งกลุ่มงานคุ้มครองจริยธรรมขึ้นในสำนักบริหารทรัพยากรบุคคล โดยมอบหมายให้รองอธิบดีที่กำกับดูแลสำนักบริหารทรัพยากรบุคคล เป็นหัวหน้ากลุ่มงาน ผู้อำนวยการสำนักบริหารทรัพยากรบุคคลเป็นรองหัวหน้ากลุ่มงาน และเจ้าหน้าที่ในส่วนวินัยและพิทักษ์ระบบคุณธรรมเป็นเจ้าหน้าที่ประจำกลุ่มงาน

 ต่อมา คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2553 ให้เปลี่ยนศูนย์ราชการ ใสสะอาดของส่วนราชการหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมและธรรมาภิบาล เป็นกลุ่มงานคุ้มครองจริยธรรม กรมสรรพากรจึงมีคำสั่ง ที่ ท.178/2554 ลงวันที่ 30 มีนาคม 2554 ยกเลิกศูนย์ราชการใสสะอาดกรมสรรพากร และให้ภารกิจของศูนย์ราชการใสสะอาดกรมสรรพากรอยู่ในความรับผิดชอบของกลุ่มงานคุ้มครองจริยธรรม

 

ปรับปรุงล่าสุด: 24-12-2020