เมนูปิด

ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร
เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 199)
เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการยกเว้นภาษีเงินได้ของบริษัท
หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ซึ่งดำเนินโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
-----------------------------------------------

                              อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 4 แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 514) พ.ศ. 2554 อธิบดีกรมสรรพากรกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข เพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ซึ่งดำเนินโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ดังต่อไปนี้

                              ข้อ 1 ในประกาศนี้
                              “โครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก” หมายความว่า โครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 4 แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 514) พ.ศ. 2554
                              “โครงการกลไกการพัฒนาที่สะอาด ซึ่งจำหน่ายคาร์บอนเครดิตประเภท Certified Emission Reductions (CERs)” หมายความว่า โครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่จำหน่ายใบรับรองปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดลงภายใต้โครงการกลไกการพัฒนาที่สะอาด ซึ่งออกโดยคณะกรรมการบริหารกลไกการพัฒนาที่สะอาดแห่งสหประชาชาติ โดยคำนวณในรูปของคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
                              “โครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งจำหน่ายคาร์บอนเครดิตประเภท Voluntary Emission Reductions (VERs)” หมายความว่า โครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่จำหน่ายใบรับรองปริมาณก๊าซเรือนกระจก ซึ่งไม่เข้าลักษณะเป็นโครงการกลไกการพัฒนาที่สะอาด โดยคำนวณในรูปของคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
                              “ก๊าซเรือนกระจก” หมายความว่าคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) มีเทน (CH4) ไนตรัสออกไซด์ (N2O) ไฮโดรฟลูออโรคาร์บอน (HIFCs) เพอร์ฟลูออโรคาร์บอน (PFCs) และ ซัลเฟอร์เฮกซะฟลูออไรด์ (SF6)
                              “คาร์บอนเครดิต” หมายความว่า ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดลงได้จากโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งคำนวณในรูปของคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า

                              ข้อ 2 การคำนวณกำไรสุทธิและขาดทุนสุทธิของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ซึ่งดำเนินโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ให้คำนวณตามมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร โดยบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้นต้องคำนวณกำไรสุทธิของรายได้จากการดำเนินโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในแต่ละโครงการแยกต่างหากออกจากรายได้จากการประกอบกิจการอื่นเป็นระยะเวลาสามรอบระยะเวลาบัญชีต่อเนื่องกันตามที่กำหนดไว้ตามมาตรา 4 แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 514) พ.ศ. 2554 หากโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมีผลขาดทุนสุทธิ ให้คงผลขาดทุนสุทธิดังกล่าวไว้ในโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกดังกล่าวในระหว่างรอบระยะเวลาบัญชีที่ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 4 แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 514) พ.ศ. 2554 เท่านั้น
                              ทั้งนี้ กรณีรายจ่ายใดไม่สามารถแยกกันได้โดยชัดแจ้งว่าเป็นรายจ่ายของรายได้จากการดำเนินโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หรือเป็นรายจ่ายของรายได้จากการประกอบกิจการอื่น ให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลดังกล่าวเฉลี่ยรายจ่ายตามส่วนของรายได้ระหว่างรายได้จากการดำเนินโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในแต่ละโครงการ และรายได้จากการประกอบกิจการอื่นในรอบระยะเวลาบัญชีนั้น

                              ข้อ 3 ให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งดำเนินโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และประสงค์จะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 4 แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 514) พ.ศ. 2554 แยกยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ พร้อมทั้งบัญชีทำการ และบัญชีกำไรขาดทุนของแต่ละโครงการ สำหรับบัญชีงบดุลของบริษัทดังกล่าว ให้ยื่นพร้อมแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสำหรับโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หรือยื่นพร้อมแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลในกิจการอื่นก็ได้ ทั้งนี้ ให้ใช้เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรเดียวกันในการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นั้น

                              ข้อ 4 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่รอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2553 เป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

สาธิต รังคสิริ
(นายสาธิต รังคสิริ)
อธิบดีกรมสรรพากร

 

ปรับปรุงล่าสุด: 10-02-2022