พระราชกฤษฎีกา
ออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ 525)
พ.ศ. 2554
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2554
เป็นปีที่ 66 ในรัชกาลปัจจุบัน
------------------------------------
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า
โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมการลดอัตราภาษีธุรกิจเฉพาะสำหรับรายรับจากการประกอบกิจการ บางกรณี
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 187 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา 3 (1) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2496 อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา 29 ประกอบกับมาตรา 33 และมาตรา 41 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ 525) พ.ศ. 2554
มาตรา 2 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา 3 ให้ยกเลิกความใน (4) ของมาตรา 5 แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ 469) พ.ศ. 2551 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
(4) ดอกเบี้ยหรือส่วนลดที่ได้จากตราสารหนี้หรือกำไรก่อนหักรายจ่ายใด ๆ ที่ได้จากการซื้อหรือขายตราสารหนี้ ทั้งนี้ ในกรณีที่ตราสารหนี้เป็นตั๋วสัญญาใช้เงินหรือตั๋วแลกเงินจะต้องเป็นตั๋วสัญญาใช้เงินหรือตั๋วแลกเงินตามที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ประกาศกำหนด
มาตรา 4 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (8) ของมาตรา 5 แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ 469) พ.ศ. 2551
(8) ดอกเบี้ยที่สถาบันการเงินได้รับจากการฝากเงินไว้กับธนาคารแห่งประเทศไทย
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
นายกรัฐมนตรี
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ 469) พ.ศ. 2551 ในส่วนที่กำหนดให้ลดอัตราภาษีธุรกิจเฉพาะสำหรับรายรับจากการประกอบกิจการของสถาบันการเงินยังไม่ชัดเจนเพียงพอ ทำให้เกิดปัญหาในการบังคับใช้กฎหมาย สมควรแก้ไขโดยกำหนดให้การลดอัตราภาษีธุรกิจเฉพาะสำหรับดอกเบี้ยหรือส่วนลดที่ได้จากตราสารหนี้หรือกำไรก่อนหักรายจ่ายใด ๆ ที่ได้จากการซื้อหรือขายตราสารหนี้ ในกรณีที่ตราสารหนี้เป็นตั๋วสัญญาใช้เงินหรือตั๋วแลกเงิน จะต้องเป็นตั๋วสัญญาใช้เงินหรือตั๋วแลกเงินตามที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ประกาศกำหนด ประกอบกับเพื่อเป็นการส่งเสริมการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทยให้มีการขยายตัวในการทำธุรกรรมทางการเงินมากยิ่งขึ้น สมควรกำหนดให้ลดอัตราภาษีธุรกิจเฉพาะ สำหรับรายรับในส่วนที่เป็นดอกเบี้ยที่สถาบันการเงินได้รับจากการฝากเงินไว้กับธนาคารแห่งประเทศไทย จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้
(ร.จ. ฉบับกฤษฎีกา เล่ม 128 ตอนที่ 46 ก วันที่ 9 มิถุนายน 2554)