เมนูปิด
เลขที่หนังสือ: 0702/4952
วันที่: 20 พฤษภาคม 2558
เรื่อง: ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีใบรับเงินบริจาคที่ผู้บริจาคสามารถนำไปใช้เป็นหลักฐานหักลดหย่อนภาษีได้
ข้อกฎหมาย : มาตรา 47(7)(ข) และมาตรา 105 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร
ข้อหารือ           มูลนิธิ ก. ได้รับการประกาศให้เป็นองค์การสถานสาธารณกุศล ตามประกาศกระทรวงการคลัง ว่าด้วยภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 2) เรื่อง กำหนดองค์การ สถานสาธารณกุศล สถานพยาบาล และสถานศึกษา ตามมาตรา 47(7)(ข) แห่งประมวลรัษฎากร และมาตรา 3(4)(ข) แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 239) พ.ศ. 2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 254) พ.ศ. 2535 ลงวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2535 มูลนิธิฯ มีแผนที่จะย้ายสำนักงานที่ตั้งในปี 2557 แต่เนื่องจากมีใบรับเงินบริจาคที่พิมพ์ที่อยู่ของสำนักงานเดิมเหลืออยู่เป็นจำนวนมาก จึงขอทราบว่า มูลนิธิฯ สามารถนำใบรับดังกล่าว มาขีดฆ่าที่อยู่เดิมและประทับตราที่อยู่ใหม่ และผู้รับบริจาคสามารถนำใบรับเงินบริจาคดังกล่าว ไปใช้เป็นหลักฐานหักลดหย่อนภาษีได้หรือไม่
แนววินิจฉัย           กรณีตามข้อเท็จจริง มูลนิธิฯ สามารถนำใบรับเงินบริจาคที่มูลนิธิฯ ได้ขีดฆ่าที่อยู่เดิมและประทับตราที่อยู่ใหม่เป็นหลักฐานการรับเงินบริจาคได้ และผู้บริจาคสามารถใช้ใบรับดังกล่าว เป็นหลักฐานในการใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีได้ โดยใบรับดังกล่าวจะต้องมีการระบุเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ออกใบรับ ชื่อหรือยี่ห้อของผู้ออกใบรับ เลขลำดับของเล่มและของใบรับและลำดับที่ได้รับการประกาศให้เป็นองค์การสถานสาธารณกุศล (ลำดับที่ 59) วันเดือนปีที่ออกใบรับและจำนวนเงินที่รับครบถ้วน ตามมาตรา 105 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร อย่างไรก็ดี มูลนิธิฯ ควรออกใบรับเงินบริจาคที่จัดพิมพ์ใหม่โดยระบุที่อยู่สำนักงานแห่งใหม่ให้ถูกต้อง มีรายการครบถ้วนตามรายการที่ระบุไว้ ตามมาตรา 105 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร ต่อไป
เลขตู้: 78/39682

 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020