เมนูปิด
เลขที่หนังสือ: 0702/7509
วันที่: 19 สิงหาคม 2558
เรื่อง: ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย กรณีเงินช่วยเหลือพนักงานและลูกจ้างในพื้นที่เสี่ยงภัยจังหวัดชายแดนภาคใต้
ข้อกฎหมาย : มาตรา 42 (17) แห่งประมวลรัษฎากรประกอบกับข้อ 2 (86) แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 126 (พ.ศ. 2509) แห่งประมวลรัษฎากร
ข้อหารือ           1. บริษัทA เป็นรัฐวิสาหกิจ ได้จ่ายเงินค่าตอบแทนพิเศษสำหรับพื้นที่เสี่ยงภัย ได้แก่ จังหวัดยะลา จังหวัดปัตตานี จังหวัดนราธิวาส และจังหวัดสงขลาในพื้นที่อำเภอจะนะ อำเภอเทพา อำเภอนาทวี และอำเภอสะบ้าย้อย ในอัตราคนละ 5,000 บาทต่อเดือน
          2. คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2551 อนุมัติการจ่ายเงินให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ และตามมติคณะกรรมการพิจารณาบำเหน็จความชอบสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ก.บ.จ.ต.) ให้แก่พนักงานรัฐวิสาหกิจ ต่อมา กระทรวงการคลังได้มีหนังสือด่วนที่สุด ลงวันที่ 4 ธันวาคม 2551 กำหนดวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทนพิเศษรายเดือนให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ดังนั้น บริษัทA ในฐานะรัฐวิสาหกิจจึงดำเนินการจ่ายเงินค่าตอบแทนพิเศษรายเดือนให้แก่พนักงานผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามข้อ 5 ของหนังสือดังกล่าว
          3. ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทA ได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบ ให้บริษัทA ใช้ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยบำเหน็จความชอบสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. 2550 โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม 2550 ซึ่งเป็นวันที่ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ มีผลใช้บังคับตามกฎหมาย และมีมติให้ดำเนินการกำหนดบำเหน็จความชอบทั้งที่เป็นตัวเงินและไม่ใช่ตัวเงิน ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีหรือ ก.บ.จ.ต. กำหนดในแต่ละเรื่องได้
          4. บริษัทA เห็นว่า เงินค่าตอบแทนพิเศษที่พนักงานได้รับจากบริษัทA ถือเป็นเงินค่าตอบแทนพิเศษที่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานได้รับตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ จึงเป็นเงินได้พึงประเมินที่พนักงานได้รับยกเว้นไม่ต้องนำมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามมาตรา 42 (17) แห่งประมวลรัษฎากรประกอบกับข้อ 2 (86) แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 126 (พ.ศ. 2509) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร บริษัทA จึงหารือว่า เมื่อบริษัทA จ่ายเงินช่วยเหลือดังกล่าวให้แก่พนักงานและลูกจ้าง จึงไม่มีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ใช่หรือไม่
แนววินิจฉัย           เงินค่าตอบแทนพิเศษที่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานได้รับตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ เป็นเงินได้ซึ่งได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามมาตรา 42 (17) แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับข้อ 2 (86) แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 126 (พ.ศ. 2509)ฯ ซึ่งตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ ข้อ 11 ได้กำหนดให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานมีสิทธิได้รับเงินค่าตอบแทนพิเศษ ตามที่คณะรัฐมนตรีกำหนด ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2551 กำหนดหลักเกณฑ์การจ่ายเงินค่าตอบแทนพิเศษรายเดือนให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และกระทรวงการคลังได้มีหนังสือด่วนที่สุด ลงวันที่ 4 ธันวาคม 2551 แจ้งวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทนพิเศษรายเดือนให้แก่พนักงานรัฐวิสาหกิจตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว ให้เป็นอำนาจของหน่วยงานต้นสังกัดที่จะพิจารณาดำเนินการเบิกจ่ายค่าตอบแทนพิเศษรายเดือนได้ตามระเบียบหรือหลักเกณฑ์ของหน่วยงาน โดยเบิกจ่ายจากเงินงบประมาณของหน่วยงานเอง ดังนั้น หากบริษัทA ได้จ่ายเงินค่าตอบแทนพิเศษให้แก่พนักงานและลูกจ้างที่ปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงภัยจังหวัดชายแดนภาคใต้ตามคำสั่งของบริษัทA โดยเป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ มติคณะรัฐมนตรี และหนังสือของกระทรวงการคลังดังกล่าวแล้ว เงินค่าตอบแทนพิเศษดังกล่าวย่อมได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามมาตรา 42 (17) แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับข้อ 2 (86) แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 126 (พ.ศ. 2509)ฯ บริษัทA จึงไม่มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย แต่อย่างใด
เลขตู้: 78/39825

 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020