เมนูปิด

เลขที่หนังสือ :   กค 0702/7090
วันที่ :   21 พฤศจิกายน 2565
เรื่อง :   ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีใบเสร็จรับเงินในการรับเงินบริจาคในนามกองทุน A
ข้อกฎหมาย :   มาตรา 103 และมาตรา 105 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร
ข้อหารือ :   1. สำนักงานได้หารือกรณีการรับเงินบริจาคในนามกองทุน A ซึ่งตามกฎหมายกำหนดว่าเงินทุนของกองทุน A คือ“เงินหรือทรัพย์สินอื่นที่ได้รับจากภาคเอกชนทั้งภายในและภายนอกประเทศรัฐบาลต่างประเทศ หรือองค์การระหว่างประเทศ” ผลการหารือสรุปได้ว่า ในการบริจาคเงินให้แก่กองทุน A ตามกฎหมาย หากผู้บริจาคเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลก็มีสิทธินำเงินบริจาคในส่วนที่ไม่เกินร้อยละ 2 ของกำไรสุทธิมาหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล ตามมาตรา 65 ตรี (3) แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับข้อ 1 (6) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 44) เรื่อง กำหนดรายจ่ายเพื่อการสาธารณประโยชน์ รายจ่ายเพื่อการศึกษา และรายจ่ายเพื่อการกีฬา ตามมาตรา 65 ตรี (3) แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2535
    2. สำนักงานได้หารือกับหน่วยงานของรัฐเกี่ยวกับใบเสร็จรับเงินตาม 1. แล้ว พร้อมทั้งได้แนบตัวอย่างใบเสร็จรับเงินมาเพื่อประกอบการพิจารณาด้วย
    3. สำนักงาน เห็นว่า เพื่อให้การดำเนินการรับเงินบริจาคเข้าสู่กองทุน A เกิดความชัดเจนในการปฏิบัติ และดำเนินการได้ถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบที่กำหนด จึงขอหารือว่า รูปแบบและรายการของใบเสร็จรับเงินการรับเงินบริจาคเข้ากองทุน A ตามตัวอย่างดังกล่าว ถูกต้องหรือไม่
แนววินิจฉัย :   การออกใบรับเพื่อเป็นหลักฐานการรับชำระเงินบริจาคนั้น กรมสรรพากรไม่ได้กำหนดรูปแบบของการออกหลักฐานดังกล่าวไว้แต่อย่างใด เพียงแต่กฎหมายได้กำหนดให้มีรายการอย่างน้อย ตามมาตรา 105 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร ดังนั้น หากสำนักงานได้ออกใบเสร็จรับเงินที่มีข้อความอย่างน้อย ตามมาตรา 105 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากรใบเสร็จรับเงินดังกล่าวถือเป็นใบรับ ตามมาตรา 103 แห่งประมวลรัษฎากร ผู้บริจาคซึ่งเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลจึงมีสิทธินำใบเสร็จรับเงินดังกล่าวมาเป็นหลักฐานเพื่อหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามประมวลรัษฎากรได้

 

ปรับปรุงล่าสุด: 17-05-2024