เมนูปิด

เลขที่หนังสือ: กค 0702/1622
วันที่: 18 เมษายน 2551
เรื่อง: ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการจ่ายเงินค่าบริการที่ปรึกษาทางวิศวกรรมไปต่างประเทศ
ข้อกฎหมาย: มาตรา 76 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร และคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.4/2528ฯ บริษัทฯ ในฐานะ ผู้แทนของ SMEC แจ้งว่า
ข้อหารือ         1. บริษัทฯ มีฐานะเป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายของประเทศมาเลเซีย ประกอบกิจการให้ คำปรึกษาทางวิศวกรรมเกี่ยวกับอุตสาหกรรมโรงงานพลังน้ำ พลังงานแหล่งน้ำ คมนาคม การขนส่ง รวมทั้งการบริหารโครงการ การพัฒนาโครงการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
         2. บริษัทฯ ทำสัญญาให้บริการที่ปรึกษาทางวิศวกรรม กับบริษัท P ซึ่งมีฐานะเป็นนิติบุคคล จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายของประเทศไทย โดยบริษัทฯ จะให้คำปรึกษาทางวิศวกรรมที่เกี่ยวข้องกับ การก่อสร้าง Power Prospect 9.9 MW Biomass Power Plant Project ของบริษัท P ในประเทศไทย บริการของบริษัทฯ จะครอบคลุมถึงงานดังต่อไปนี้
         2.1 การวางแผน เกี่ยวกับการก่อสร้าง จัดเตรียมแผนการดำเนินโครงการ ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับวิธีปฏิบัติในการก่อสร้างที่ดี และมีความปลอดภัย
         2.2 บริการทางวิศวกรรมเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานดังต่อไปนี้
              2.2.1 การสร้างความสมดุลในการปฏิบัติงาน ได้แก่ แรงงานคน เครื่องจักร เครื่องไฟฟ้า และการใช้อุปกรณ์ เครื่องมือ การออกแบบขั้นพื้นฐาน รวมถึงการสำรวจสภาพดินสำหรับการก่อสร้างถนน อาคาร โรงงาน การปรับภูมิทัศน์ของสถานที่ก่อสร้าง การวางผัง การออกแบบทางระบายน้ำ ระบบบำบัด น้ำเสีย ออกแบบอาคาร และโครงสร้างที่เป็นโลหะ
              2.2.2 การออกแบบวิศวกรรมเครื่องกล เกี่ยวข้องกับการออกแบบพื้นฐานของระบบ เครื่องกล พัฒนาระบบการวางท่อ การวางผังการใช้อุปกรณ์เครื่องมือต่าง ๆ
              2.2.3 การออกแบบวิศวกรรมไฟฟ้า เกี่ยวข้องกับการจัดทำแผนภาพเส้นตรง การกำหนด สายเคเบิ้ล และการวางผังการเดินสายเคเบิลของโครงการ
         2.3 บริการจัดซื้อเกี่ยวข้องกับการจัดเตรียมรายละเอียดทางวิศวกรรมสำหรับการจัดหา แรงงานคน เครื่องจักร และเครื่องไฟฟ้า รวมถึงการจัดเตรียมเอกสารการประมูล การประเมินการประมูล ตรวจสอบ เสนอความเห็น สำหรับแบบร่างของผู้รับเหมา
         2.4 การบริหารสัญญาเกี่ยวข้องกับการบริการทั่วไป โดยบริษัทฯ จะสนับสนุนบริษัท P ใน การควบคุมเอกสาร แบบร่าง รวบรวมและจัดเตรียมรายงานประจำเดือน ประชุมร่วมกับบริษัท Power และผู้รับเหมาที่เกี่ยวข้อง
         2.5 การบริหารการก่อสร้าง บริษัทฯ จะสนับสนุนบริษัท P ในการจัดตั้งทีมงานประจำ สถานที่ก่อสร้าง การจัดการ การบริการการก่อสร้างของโครงการทั้งหมด การดำเนินงานด้านความปลอดภัย ในสถานที่ก่อสร้าง
         3. ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้เป็นการเฉพาะที่กำหนดไว้ในสัญญาฯ บริษัทฯ ต้องเริ่มปฏิบัติหน้าที่ ในวันที่ 31 มีนาคม 2550 และต้องดำเนินการตามโครงการให้แล้วเสร็จภายใน 21 เดือน นับแต่วันเริ่มต้น การปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาฯ โดยบริษัทฯ จะปฏิบัติหน้าที่ตาม 2.1 2.2 และ 2.3 ในต่างประเทศ และ หน้าที่ตาม 2.4 และ 2.5 ในประเทศไทย
         4. บริษัทฯ ขอหารือว่าเมื่อบริษัท P จ่ายค่าบริการตามสัญญาฯ ให้กับบริษัทฯ บริษัท Power มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร หรือไม่
แนววินิจฉัย         เนื่องจากค่าบริการตามสัญญาฯ เป็นค่าตอบแทนการให้คำปรึกษาทางวิศวกรรม การบริหารสัญญาฯ และการบริหารการก่อสร้าง Biomass Power Plant Project ของบริษัท P ในประเทศไทย โดยบริษัทฯ มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามสัญญาฯ ด้วยมาตรฐานที่เหมาะสม และบริษัทฯ มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบใน ความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาฯ ต่อบริษัท P การให้บริการตามสัญญาฯ จึงเป็นกรณีที่บริษัทฯ ใช้ความรู้ความชำนาญทางวิศวกรรมและทางธุรกิจทำงานให้กับบริษัท P ซึ่งเข้า ลักษณะเป็นการรับจ้างทำของ ดังนั้น ค่าบริการตามสัญญาฯ จึงเข้าลักษณะเป็นกำไรจากธุรกิจ ตามข้อ 7 แห่งความตกลงระหว่างราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งประเทศมาเลเซีย เพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อน และการป้องกันการเลี่ยงรัษฎากร ในส่วนที่เกี่ยวกับภาษีเก็บจากเงินได้ ฉะนั้น หากในการให้บริการ ดังกล่าว บริษัทฯ ได้ส่งพนักงาน เจ้าหน้าที่ หรือผู้แทนของบริษัทฯ เข้ามาดำเนินกิจกรรมให้คำแนะนำ ปรึกษา บริหารสัญญาฯ และบริหารการก่อสร้าง ในประเทศไทยเป็นระยะเวลาเกินกว่า 6 เดือน กรณีดังกล่าวถือได้ว่า บริษัทฯ มีสถานธุรกิจประจำซึ่งใช้ในการประกอบธุรกิจทั้งหมดหรือบางส่วน เข้า ลักษณะเป็นสถานประกอบการถาวร ตามข้อ 5 วรรคหนึ่ง แห่งอนุสัญญาฯ บริษัทฯ มีหน้าที่ต้องนำ ค่าบริการ มารวมคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในประเทศไทย ในอัตราร้อยละ 30 ของกำไรสุทธิ ตามมาตรา 76 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร และข้อ 7 วรรคหนึ่ง แห่งอนุสัญญาฯ และ เมื่อบริษัท P จ่ายค่าจ้างให้กับบริษัทฯ บริษัท P มีหน้าที่หักภาษีเงินได้นิติบุคคล ณ ที่จ่ายในอัตรา ร้อยละ 5.0 ตามข้อ 12 ของคำสั่งกรมสรรพการที่ ท.ป. 4/2528 เรื่องสั่งให้ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมิน ตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร มีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ลงวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2528
เลขตู้: 71/35794

 

 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020