เมนูปิด

เลขที่หนังสือ: กค 0702/3839
วันที่: 7 กรกฎาคม 2551
เรื่อง: ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้ที่จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนการศึกษา
ข้อกฎหมาย: พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 420) และประกาศอธิบดีกรมสรรพากรฯ ลงวันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2548
ข้อหารือ          นาย ก. ได้บริจาคเงินให้แก่สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศ. ของมหาวิทยาลัย จ. เพื่อเป็นการสนับสนุนการศึกษา และได้นำเงินบริจาคดังกล่าวไปใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ปีภาษี 2549 สำหรับเงินได้พึงประเมินหลังจากหักค่าใช้จ่ายและ ค่าลดหย่อนตามมาตรา 47 (1) (2) (3) (4) (5) หรือ (6) แห่งประมวลรัษฎากร เป็นจำนวน 2 เท่าของรายจ่ายที่ได้จ่าย ไปเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนการศึกษา ไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินได้พึงประเมินหลังจากหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน ดังกล่าว ตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 420) พ.ศ. 2547 ประกอบกับประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ สำหรับเงินได้ที่จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อการสนับสนุนการศึกษา ลงวันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2548 แต่เนื่องจากนาย ก. ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่า เงินบริจาคดังกล่าวมีสิทธิหักลดหย่อนได้เท่าจำนวน ที่บริจาค แต่ต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินที่เหลือหลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนแล้ว จึงขอทราบว่า การใช้สิทธิยกเว้น ภาษีเงินได้สำหรับเงินได้พึงประเมินหลังจากหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนตามมาตรา 47 (1) (2) (3) (4) (5) หรือ (6) แห่ง ประมวลรัษฎากร เป็นจำนวน 2 เท่าของรายจ่ายที่ได้จ่ายไปเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนการศึกษาดังกล่าว ถูกต้องหรือไม่
แนววินิจฉัย          กรณีนาย ก. ได้บริจาคเงินให้แก่สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศ. โดยมีหลักฐานใบเสร็จรับเงินระบุว่า "เงินบริจาค เพื่อสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศ." หรือ "เงินบริจาค บัญชีกองทุนศ. เพื่อทูลเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" โดยมิได้ระบุโครงการตาม 1 และ 2 จึงไม่ได้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้ที่ได้จ่ายไปเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อสนับสนุน การศึกษาแก่สถานศึกษาของทางราชการตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 420) พ.ศ. 2547 ประกอบกับข้อ 10 ของ ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรฯ ลงวันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2548 แต่อย่างใด
เลขตู้: 71/35985

 

 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020