1. เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของรัฐผู้ทำสัญญาทั้งสองรัฐจะแลกเปลี่ยนข้อสนเทศอันจำเป็นแก่การปฏิบัติตามอนุสัญญานี้หรืออันจำเป็นแก่การป้องกันการหลีกเลี่ยงภาษีอากรหรือการบริหารกฎหมายท้องถิ่นของรัฐคู่สัญญาในส่วนที่เกี่ยวกับภาษีอากรในขอบข่ายแห่งอนุสัญญานี้ เท่าที่ภาษีอากรตามกฎหมายนั้นสอดคล้องกับอนุสัญญานี้ข้อสนเทศใดๆ ที่แลกเปลี่ยนกันนั้นให้ถือว่าเป็นความลับและมิให้เปิดเผยแก่บุคคลใดนอกจากบุคคล (รวมทั้งศาลและองค์กรทางบริหาร) ผู้ซึ่งเกี่ยวข้องกับการประเมินหรือการเก็บภาษีอากรหรือการฟ้องร้องหรือการพิจารณาความอุทธรณ์ในเรื่องภาษีอากรซึ่งอยู่ในบังคับแห่งอนุสัญญานี้
2. ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม มิให้แปลความของบทบัญญัติของวรรค 1 ของข้อนี้เป็นการตั้งข้อผูกพันบังคับเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่งรัฐใดให้
(ก) ดำเนินมาตรการทางการบริหารโดยขัดกับกฎหมายหรือวิธีปฏิบัติทางการบริหารที่มีอยู่ในรัฐผู้ทำ สัญญารัฐหนึ่งรัฐใด
(ข) ให้รายละเอียดอันมิอาจจัดหาได้ตามกฎหมายหรือตามทางการบริหารตามปกติของรัฐผู้ทำ สัญญานั้นหรือของรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่ง
(ค) ให้ข้อสนเทศซึ่งจะเปิดเผยความลับทางธุรกิจการค้า อุตสาหกรรม การพาณิชย์ หรือวิชาชีพ หรือกรรมวิธีการค้าหรือข้อสนเทศซึ่งหากเปิดเผยก็จะเป็นการขัดกับความสงบเรียบร้อย
1. อนุสัญญานี้จะได้รับการสัตยาบันและจะได้ทำการแลกเปลี่ยนสัตยาบันสารกันที่กรุงลอนดอนโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
2. อนุสัญญานี้จะมีผลใช้บังคับในทันทีที่สิ้นสุดเวลา 30 วัน นับจากวันที่ได้แลกเปลี่ยนสัตยาบันสารกันและจะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันนั้นต่อไป
(ก) ในสหราชอาณาจักร
(1) ในส่วนที่เกี่ยวกับภาษีเงินได้และภาษีเงินได้ผลได้จากทุนสำหรับปีการประเมินปีใดๆ ที่ เริ่มต้นในหรือหลังวันที่ 6 เมษายน ของปีปฏิทินที่อนุสัญญานี้มีผลใช้บังคับ
(2) ในส่วนที่เกี่ยวกับภาษีเงินได้บริษัทสำหรับปีการเงินปีใดๆที่เริ่มต้นในหรือหลังวันที่ 1 เมษายน ของปีปฏิทินที่อนุสัญญานี้มีผลใช้บังคับ
(3) ในส่วนที่เกี่ยวกับภาษีเงินได้ปิโตรเลียมสำหรับระยะเวลาที่ต้องชำระภาษีระยะใดๆ ซึ่ง เริ่มต้นในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม ของปีปฏิทินที่อนุสัญญานี้มีผลใช้บังคับ และ
(4) ในส่วนที่เกี่ยวกับภาษีบำรุงที่ดิน สำหรับมูลค่าแห่งการบำรุงที่ได้เกิดขึ้นจริงแล้วในหรือ หลังวันที่ 1 เมษายน ของปีปฏิทินที่อนุสัญญานี้มีผลใช้บังคับ
(ข) ในประเทศไทย
ในส่วนที่เกี่ยวกับภาษีไทยสำหรับปีภาษีและรอบระยะเวลาบัญชีซึ่งเริ่มต้นในหรือหลังวัน ที่ 1 มกราคม ของปีปฏิทินที่อนุสัญญานี้มีผลใช้บังคับ
อนุสัญญานี้จะใช้บังคับจนกว่ารัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่งเลิกใช้ รัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่งรัฐใดอาจเลิกอนุสัญญานี้โดยทางการทูต โดยแจ้งการเลิกอย่างน้อย 6 เดือนก่อนสิ้นปีปฏิทินซึ่งเริ่มต้นในหรือหลังระยะเวลา 5 ปี นับจากวันที่มีผลใช้บังคับ ในกรณีเช่นนี้ให้อนุสัญญาเลิกมีผลใช้บังคับ
(ก) ในกรณีสหราชอาณาจักร
(1) ในส่วนที่เกี่ยวกับภาษีเงินได้ และภาษีเงินได้จากทุนสำหรับปีการประเมินปีใดๆ ที่เริ่ม ต้นในหรือหลังวันที่ 5 เมษายน ของปีปฏิทินต่อไปที่ถัดจากปีที่มีการแจ้งการเลิก
(2) ในส่วนที่เกี่ยวกับภาษีเงินได้บริษัทสำหรับปีการเงินปีใดๆ ที่เริ่มต้นในหรือ หลังวันที่ 1 เมษายน ของปีปฏิทินต่อไปที่ถัดจากปีที่มีการแจ้งการเลิก
(3) ในส่วนที่เกี่ยวกับภาษีเงินได้ปิโตรเลียมสำหรับระยะเวลาที่ต้องชำระภาษีระยะใดๆ ซึ่ง เริ่มต้นในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม ในปีต่อไปถัดจากปีที่มีการแจ้งการเลิกและ
(4) ในส่วนที่เกี่ยวกับภาษีบำรุงที่ดิน สำหรับมูลค่าแห่งการบำรุงที่เกิดขึ้นจริงแล้วในหรือ หลังวันที่ 1 เมษายน ในปีต่อไปที่ถัดจากปีที่มีการแจ้งการเลิก
(ข) ในประเทศไทย
ในส่วนที่เกี่ยวกับภาษีไทยสำหรับปีภาษี และรอบระยะเวลาบัญชีซึ่งเริ่มต้นภายหลังปีปฏิทินที่มีการแจ้งการเลิก
เพื่อเป็นพยานแก่การนี้ ผู้ลงนามข้างท้ายนี้ ผู้ซึ่งได้รับมอบอำนาจโดยถูกต้องจากรัฐบาลของประเทศทั้งสอง ได้ลงนามในอนุสัญญานี้
ทำคู่กันเป็นสองฉบับ ณ กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ สิบแปด กุมภาพันธ์ พุทธศักราช สองพันห้าร้อยยี่สิบสี่ ตรงกับคริสต์ศักราช หนึ่งพันเก้าร้อยแปดสิบเอ็ด เป็นภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ตัวบททั้งสองฉบับมีผลเท่าเทียมกัน
|