บริการส่วนบุคคลที่ไม่เป็นอิสระ
1. ในบังคับบทบัญญัติของข้อ 19 และ 21 เงินเดือน ค่าจ้าง และค่าตอบแทนอื่นๆ คล้ายคลึงกันซึ่งผู้มีถิ่นที่อยู่ในรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่งได้รับเนื่องจากการทำงาน ให้เก็บภาษีได้เฉพาะในรัฐนั้น เว้นไว้แต่ว่าการทำงานนั้นจะกระทำในรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่ง ถ้าการทำงานได้มีการกระทำดังกล่าวค่าตอบแทนที่ได้รับจากการทำงานนั้นอาจเก็บภาษีได้ในอีกรัฐหนึ่งนั้น
2. โดยไม่ต้องคำนึงถึงบทบัญญัติในวรรค 1 ของข้อนี้ ค่าตอบแทนซึ่งผู้มีถิ่นที่อยู่ในรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่งได้รับเนื่องจากการทำงานในรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่ง ให้เก็บภาษีได้เฉพาะรัฐแรกถ้า
(ก) ผู้รับอยู่ในอีกรัฐหนึ่งนั้นชั่วระยะเวลาหนึ่งหรือหลายระยะซึ่งรวมกันแล้วไม่เกิน 183 วันในปีรัษฎากรที่เกี่ยวข้อง และ
(ข) ค่าตอบแทนนั้นจ่ายโดยหรือจ่ายในนามของนายจ้าง ซึ่งมิได้เป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ในอีกรัฐหนึ่งและ
(ค) ค่าตอบแทนนั้นมิได้ตกเป็นภาระแก่สถานประกอบการถาวรหรือฐานประกอบการประจำซึ่งนายจ้างมีอยู่ในอีกรัฐหนึ่ง
3. โดยไม่ต้องคำนึงถึงบทบัญญัติที่ผ่านมาของข้อนี้ ค่าตอบแทนจากการทำงานในเรือหรืออากาศยานในการจราจรระหว่างประเทศ ให้เก็บภาษีได้ในรัฐผู้ทำสัญญาซึ่งสถานจัดการใหญ่ของวิสาหกิจตั้งอยู่
ค่าป่วยการของกรรมการ
ค่าป่วยการของกรรมการและจำนวนเงินที่ชำระอันคล้ายคลึงกัน ซึ่งผู้มีถิ่นที่อยู่ในรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่งได้รับในฐานะที่เป็นสมาชิกในคณะกรรมการของบริษัทซึ่งเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ในรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่งอาจเก็บภาษีได้ในอีกรัฐหนึ่งนั้น
นักแสดงและนักกีฬา
1. โดยไม่ต้องคำนึงถึงบทบัญญัติในข้อ 15 และ 16 เงินได้ที่นักแสดงสาธารณะ อาทิ นักแสดงละคร ภาพยนตร์ วิทยุและโทรทัศน์ และนักดนตรีได้รับและนักกีฬาได้รับจากกิจกรรมส่วนบุคคลของตนเช่นว่านั้น อาจเก็บภาษีได้ในรัฐผู้ทำสัญญาซึ่งได้มีการกระทำกิจกรรมนั้น
2. ในกรณีเงินได้ในส่วนที่เกี่ยวกับกิจกรรมส่วนบุคคลเช่นว่านั้นของนักแสดงหรือนักกีฬา มิได้เกิดขึ้นกับตัวนักแสดงหรือนักกีฬาเอง แต่เกิดขึ้นกับบุคคลอื่น เงินได้นั้นอาจจะเก็บภาษีได้ในรัฐผู้ทำสัญญาที่กิจกรรมนั้นๆ ของนักแสดงหรือนักกีฬาได้มีการกระทำ โดยไม่ต้องคำนึงถึงบทบัญญัติของข้อ 8, 15 และ 16 ที่บังคับอยู่
3. บทบัญญัติของวรรค (1) และ (2) ของข้อนี้ และวรรค (4) ของข้อ 5 มิให้ใช้บังคับกับค่าตอบแทนหรือกำไร เงินเดือน ค่าจ้าง และเงินได้ที่คล้ายคลึงกัน อันได้รับเนื่องจากการกระทำกิจกรรมต่างๆ ในรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่งของนักแสดงสาธารณะ หากการมาเยือนรัฐนั้นได้รับการอุดหนุนส่วนใหญ่จากเงินทุนสาธารณะของรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่ง รวมทั้งส่วนราชการใดๆ หรือองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นใดๆ ของอีกรัฐหนึ่งนั้น
งานรัฐบาล
1. (ก) ค่าตอบแทนนอกเหนือจากเงินบำนาญที่จ่ายโดยรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่งหรือส่วนราชการหรือองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นของรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่งให้แก่บุคคลธรรมดาใดๆ อันเนื่องจากการบริการอันมีลักษณะเป็นงานรัฐบาลที่ให้แก่รัฐนั้น หรือส่วนราชการ หรือองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นของรัฐนั้นจะเก็บภาษีได้เฉพาะในรัฐนั้นเท่านั้น
(ข) อย่างไรก็ตาม ค่าตอบแทนดังกล่าวจะเก็บภาษีได้เฉพาะในรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่งเท่านั้น ถ้าหากบริการนั้นได้เกิดขึ้นในรัฐนั้น และผู้รับมีถิ่นที่อยู่ในรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่งผู้ซึ่ง
(1) เป็นคนชาติของรัฐนั้น หรือ
(2) มิได้เป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ในรัฐนั้นเพียงเพื่อมุ่งประสงค์ที่จะเข้าดำเนินบริการนั้น
2. (ก) เงินบำนาญใดที่จ่ายโดยรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่งหรือโดยส่วนราชการหรือองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นของรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่งนั้นให้แก่บุคคลธรรมดาใดๆ อันเนื่องจากบริการอันมีลักษณะเป็นงานรัฐบาลให้แก่รัฐนั้นหรือส่วนราชการของรัฐนั้นหรือองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นของรัฐนั้นจะเก็บภาษีได้เฉพาะในรัฐนั้นเท่านั้น
(ข) อย่างไรก็ตาม เงินบำนาญนั้นจะเก็บภาษีได้เฉพาะในรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่งถ้าผู้รับเป็นคนชาติของและเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ในรัฐนั้น
3 ให้ใช้บทบัญญัติของข้อ 16 และ 17 บังคับแก่ค่าตอบแทนอันเนื่องจากการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจใดๆ ที่รัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่ง หรือส่วนราชการ หรือองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นของรัฐนั้นเป็นผู้ดำเนินการ
นักศึกษา
1. บุคคลธรรมดาผู้ซึ่งในเวลาก่อนหน้าที่จะไปเยือนรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่งเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ในรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่งและการไปเยือนรัฐแรกนั้นก็เพียงเพื่อประสงค์ที่จะ
(ก) เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัย หรือสถาบันการศึกษาอื่นที่เป็นที่ยอมรับหรือ
(ข) เข้ารับการฝึกอบรมให้สามารถปฏิบัติงานด้านวิชาชีพหรือการค้า หรือ
(ค) ศึกษาหรือทำการค้นคว้าวิจัยโดยเป็นผู้รับทุน เงินอุดหนุนหรือรางวัลจากองค์การ รัฐบาล การศาสนา การกุศล วิทยาศาสตร์ วรรณคดี หรือการศึกษาจะได้รับยกเว้นภาษีในรัฐแรกที่เก็บจาก
(1) เงินที่ส่งจากต่างประเทศเพื่อความมุ่งประสงค์ในการครองชีพ การศึกษา การเล่าเรียน การค้นคว้าวิจัย หรือการฝึกอบรมของผู้นั้นเอง
(2) ทุน เงินอุดหนุนหรือเงินรางวัล และ
(3) เงินได้จากบริการส่วนบุคคลที่กระทำในรัฐนั้น (นอกเหนือไปจากบริการของเสมียนฝึกหัดหรือของบุคคลธรรมดาอื่นที่กำลังรับการฝึกอบรม ที่ให้แก่บุคคลหรือหุ้นส่วนซึ่งผู้นั้นกำลังฝึกฝนหาความชำนาญด้วยหรือกำลังให้การฝึกอบรม) แต่ทว่าเงินได้นั้นจะต้องเป็นรายได้ที่จำเป็นและสมควรสำหรับการครองชีพและ การศึกษาของผู้นั้น
2. ไม่ว่ากรณีใดก็ตามให้บุคคลธรรมดาได้รับประโยชน์จากบทบัญญัติในวรรค (1) (3) ของข้อนี้เป็นระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี