เมนูปิด
Untitled Document
เลขที่หนังสือ: กค 0702/6558
วันที่: 11 กันยายน 2557
เรื่อง: ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย กรณีการขออนุมัติหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ออกหนังสือรับรองการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย และนำส่งภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย แทนผู้จ่ายเงิน
ข้อกฎหมาย: มาตรา 40 (5) (8) มาตรา 50 ทวิ(1) มาตรา 52 มาตรา 53 มาตรา 59 และมาตรา 3 เตรส แห่งประมวลรัษฎากร
ข้อหารือ           1.บริษัทฯ มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร บริษัทฯ ประกอบกิจการให้เช่าและการให้บริการพื้นที่ศูนย์การค้า
          2.บริษัทฯ มีความประสงค์ขออนุมัติเป็นผู้ดำเนินการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ออกหนังสือรับรองการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย และนำส่งภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย แทนผู้เช่าหรือผู้ใช้บริการ (ผู้จ่ายเงิน) โดยปฏิบัติดังนี้
               2.1บริษัทฯ จะจัดให้มีหนังสือแต่งตั้งตัวแทนมอบอำนาจให้บริษัทฯ กระทำการแทนลูกค้า (ผู้จ่ายเงิน) เพื่อหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ออกหนังสือรับรองการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย และยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ตามแบบ ภ.ง.ด. 53 พร้อมนำส่งภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย แทนผู้จ่ายเงิน
               2.2บริษัทฯ ขอยกเว้นไม่ต้องออกหนังสือรับรองการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายเป็นรายฉบับทุกครั้งที่มีการรับชำระค่าเช่าหรือค่าบริการ แต่ขอระบุข้อความเพิ่มเติมในใบเสร็จรับเงินหรือใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี โดยมีสาระสำคัญว่า "บริษัทฯ ได้ดำเนินการหักภาษี ณ ที่จ่าย เป็นจำนวน ... บาท แทนผู้จ่ายเงินแล้ว และจะดำเนินการนำส่งภาษีดังกล่าวต่อกรมสรรพากรภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไป" โดยบริษัทฯ จะจัดให้มีการพิมพ์ชื่อผู้รับเงินไว้ในใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษี
               2.3บริษัทฯ ขอยกเว้นไม่ต้องยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ตามแบบ ภ.ง.ด. 53 ในนามผู้จ่ายเงิน แต่ขอยื่นรายการโดยระบุในช่องผู้มีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ว่า "บริษัทฯ ในฐานะผู้กระทำการแทนผู้เช่าพื้นที่" พร้อมทั้งแนบรายละเอียดรายการภาษีหัก ณ ที่จ่าย ซึ่งระบุชื่อผู้เช่าพื้นที่ เลขประจำตัวผู้เสียภาษีของผู้เช่าพื้นที่ จำนวนเงิน จำนวนเงินภาษีที่หักนำส่ง และขอให้ถือว่าเอกสารดังกล่าวเป็นใบต่อแบบ ภ.ง.ด. 53 ซึ่งอาจจัดทำเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษก็ได้ และให้ถือว่ารายละเอียดดังกล่าวเป็นบัญชีพิเศษแสดงการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย และนำส่งภาษีของผู้ขายสินค้าด้วย
               2.4บริษัทฯ ขอใช้สำเนาแบบ ภ.ง.ด. 53 และใบเสร็จรับเงินของกรมสรรพากรที่รับชำระภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย เป็นหลักฐานในการเครดิตภาษีเงินได้นิติบุคคลของบริษัทฯ ตามมาตรา 60 แห่งประมวลรัษฎากร
แนววินิจฉัย           1.กรณีบริษัทฯ ได้รับเงินค่าเช่าและค่าบริการ ซึ่งเป็นเงินได้พึงประเมิน ตามมาตรา 40 (5) และมาตรา 40 (8) แห่งประมวลรัษฎากร ผู้จ่ายเงินได้มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย โดยคำนวณหักไว้ในอัตราร้อยละ 5.0 และร้อยละ 3.0 ตามข้อ 6 และข้อ 12/1 ของคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.4/2528 เรื่อง สั่งให้ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมิน ตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร มีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ลงวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2528 ผู้จ่ายเงินดังกล่าวมีหน้าที่ต้องออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ให้กับบริษัทฯ ผู้ถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายในทันทีทุกครั้งที่มีการหักภาษี ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 50 ทวิ (1) แห่งประมวลรัษฎากร และมีหน้าที่ต้องยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 52 วรรคหนึ่ง มาตรา 59 และมาตรา 3 เตรส แห่งประมวลรัษฎากร
          2.เนื่องจากผู้จ่ายเงินซึ่งมีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ไม่ว่าจะเป็นผู้เช่าและผู้รับบริการจากบริษัทฯ ซึ่งมีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย ตาม 1. มีเป็นจำนวนมาก เมื่อบริษัทฯ ต้องการอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าและเพื่อให้การหักภาษี ณ ที่จ่าย สำหรับค่าเช่าและค่าบริการเป็นไปโดยถูกต้อง บริษัทฯ จึงมีความประสงค์เป็นตัวแทนของผู้จ่ายเงินได้ เพื่อทำการออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย และนำส่งภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายแทนผู้จ่ายเงิน เข้าลักษณะเป็นการกระทำการแทนตัวการ ตามมาตรา 797 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ จึงอนุมัติให้ผู้จ่ายเงินแต่งตั้งให้บริษัทฯ เป็นตัวแทนดำเนินการดังกล่าวได้ ตามมาตรา 797 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และมอบอำนาจให้กระทำการแทนเป็นลายลักษณ์อักษร โดยให้บริษัทฯ ดำเนินการดังนี้
               (1)กรณีบริษัทฯ ได้มีหนังสือแจ้งไปยังผู้จ่ายเงินซึ่งมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ตาม 1. ซึ่งเป็นผู้จ่ายเงินรายเดิม โดยมีสาระสำคัญว่า บริษัทฯ จะเป็นผู้ดำเนินการหักภาษี ณ ที่จ่าย ของเงินค่าเช่าและค่าบริการ ออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายแทน และยื่นรายการภาษีหัก ณ ที่จ่ายแทน โดยกำหนดระยะเวลาให้ผู้จ่ายเงินนั้นตอบรับ เมื่อผู้จ่ายเงินตอบรับแล้ว ให้ถือว่าหนังสือแจ้งเป็นข้อตกลงแต่งตั้งให้บริษัทฯ เป็นตัวแทนได้ แต่หากเป็นผู้จ่ายเงินซึ่งมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายรายใหม่ จะต้องมีการแต่งตั้งตัวแทนอย่างชัดเจน
               (2)กรณีบริษัทฯ หักภาษี ณ ที่จ่าย สำหรับเงินค่าเช่าและค่าบริการแทนผู้จ่ายเงินแล้ว ผ่อนผันให้ผู้จ่ายเงินไม่ต้องออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย สำหรับการจ่ายเงินค่าเช่าและค่าบริการให้กับบริษัทฯ ในทันทีทุกครั้งที่มีการหักภาษี ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 50 ทวิ วรรคสาม แห่งประมวลรัษฎากร บริษัทฯ จึงไม่ต้องออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย เป็นรายฉบับทุกครั้งที่มีการจ่ายเงิน แต่บริษัทฯ ต้องจัดทำรายละเอียดรายการภาษีหัก ณ ที่จ่าย เพื่อเป็นหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายด้วย และบริษัทฯ ยังคงมีหน้าที่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย ทุกครั้งที่มีการจ่ายเงินได้พึงประเมินดังกล่าวรายละเอียดของรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ต้องมีรายการอย่างน้อย ดังต่อไปนี้
                    (ก)คำว่า "รายละเอียดรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ประจำเดือน ..... พ.ศ. ....." ในที่ที่เห็นได้เด่นชัด
                    (ข)ชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของบริษัทฯ ซึ่งเป็นผู้ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย โดยมีข้อความว่า "ในฐานะผู้กระทำการแทนผู้จ่ายเงินได้ตามรายชื่อที่ระบุไว้ในเอกสารนี้"
                    (ค)ประเภทเงินได้
                    (ง)ชื่อ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้จ่ายเงิน จำนวนเงินที่จ่าย และจำนวนเงินภาษีที่หักไว้
                    (จ)ลายมือชื่อผู้มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย
          (3)เพื่อเป็นการรับรองว่าบริษัทฯ ได้ดำเนินการหักภาษี ณ ที่จ่ายแทนผู้จ่ายเงินแล้ว ให้บริษัทฯ ระบุข้อความเพิ่มเติมในใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษีของเงินค่าเช่าและค่าบริการ โดยมีข้อความว่า "บริษัทฯ ได้หักภาษี ณ ที่จ่าย ในอัตราร้อยละ 5.0 หรือร้อยละ 3.0 เป็นจำนวน ..... บาท แทนผู้จ่ายเงินแล้วและจะดำเนินการนำส่งภาษีดังกล่าวต่อกรมสรรพากรภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไป" ซึ่งบริษัทฯ จะต้องจัดให้มีการ Scan หรือพิมพ์ลายมือชื่อผู้รับมอบอำนาจในใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษีดังกล่าวด้วย
          (4)ให้บริษัทฯ ยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายตามแบบ ภ.ง.ด.53 โดยระบุในช่องผู้มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่ายว่า บริษัทฯ ในฐานะผู้กระทำการแทนผู้จ่ายเงินในใบแนบ ภ.ง.ด.53 พร้อมทั้งแนบรายละเอียดรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ซึ่งระบุชื่อผู้จ่ายเงิน เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้จ่ายเงิน จำนวนเงินที่จ่าย และจำนวนภาษีที่หัก และให้ถือว่าเอกสารรายละเอียดดังกล่าวเป็นใบต่อแบบ ภ.ง.ด.53 ด้วย ซึ่งจะจัดทำเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษก็ได้ และให้ถือว่าเป็นบัญชีพิเศษแสดงการหักภาษี ณ ที่จ่าย และการนำส่งภาษี ตามมาตรา 17 แห่งประมวลรัษฎากร และข้อ 7 ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้และภาษีการค้า (ฉบับที่ 4) เรื่อง กำหนดให้ผู้มีหน้าที่หักภาษีเงินได้หรือภาษีการค้า ณ ที่จ่าย มีบัญชีพิเศษ ลงวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2531
          (5)ให้บริษัทฯ ใช้สำเนาแบบ ภ.ง.ด. 53 และหลักฐานใบเสร็จรับเงินของกรมสรรพากรที่รับชำระภาษีหัก ณ ที่จ่าย เป็นหลักฐานในการเครดิตภาษี ตามมาตรา 60 แห่งประมวลรัษฎากร
เลขตู้: 77/39262

 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020