คำพิพากษาฎีกาที่6580/2540 | |
บริษัทกิจพูนชัย จำกัด | โจทก์ |
กรมสรรพากร | จำเลย |
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ประมวลรัษฎากร มาตรา 86 | |
โจทก์นำภาษีมูลค่าเพิ่มตามใบกำกับภาษีของห้างหุ้นส่วนจำกัด ท. และห้างหุ้นส่วนจำกัด พ. มาหักในการคำนวณภาษี แต่จากการตรวจสอบบัญชีรายงานภาษีขายตามแบบ ภ.พ.30 ที่ห้างหุ้นส่วนจำกัด ท. ยื่นต่อจำเลยไม่ปรากฏรายชื่อของโจทก์เป็นผู้ซื้อสินค้าจากห้างหุ้นส่วนจำกัด ท. ทั้งไม่มีหลักฐานการชำระเงินให้แก่ห้างหุ้นส่วนจำกัด ท. มาแสดงต่อศาล ที่โจทก์อ้างว่าในปี 2535 ยอดขายของห้างหุ้นส่วนจำกัด ท. มีจำนวนสูงมาก ในปี 2536 ห้างหุ้นส่วนจำกัด ท. จึงจัดตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัด พ. ขึ้นเพื่อ แบ่งยอดขายของห้างหุ้นส่วนจำกัด ท. ให้น้อยลง ก็ปรากฏว่าห้างหุ้นส่วนจำกัด พ. ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2535 มิใช่จดทะเบียนในปี 2536 พยานหลักฐานโจทก์ จึงไม่มีน้ำหนักให้รับฟังว่าโจทก์ได้ซื้อสินค้าจากห้างหุ้นส่วนจำกัด ท. ตามใบกำกับสินค้าดังกล่าว ส่วนกรณีของห้างหุ้นส่วนจำกัด พ. ข้อเท็จจริงฟังได้จากแบบ ภ.ง.ด.50 งบดุล และแบบ ภ.พ.30 ว่าในปี 2535 และปี 2536 ห้างหุ้นส่วนจำกัด พ. ไม่มีรายได้จากการขายสินค้าแต่อย่างใด แม้ห้างหุ้นส่วนจำกัด พ. กับห้างหุ้นส่วนจำกัด ท. จะมีผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่เป็นบุคคลเดียวกันก็ตาม แต่ห้างฯ ทั้งสองก็แยกเป็น นิติบุคคลต่างหากจากกัน หากมีการขายสินค้าในนามของห้างหุ้นส่วนจำกัด พ. ไปจริง ก็ชอบที่ห้างฯ ดังกล่าวจะจัดทำงบดุลและยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่มว่ามีการขายสินค้าไปจริง คงไม่จัดทำงบดุลและยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีโดยระบุว่าไม่มีการขายสินค้าดังกล่าว จึงไม่อาจรับฟังได้ว่าห้างหุ้นส่วนจำกัด พ. ได้ขายสินค้าให้โจทก์ ดังนั้น ห้างหุ้นส่วนจำกัด ท. และห้างหุ้นส่วนจำกัด พ. จึงไม่มีสิทธิที่จะออกใบกำกับภาษีให้แก่โจทก์ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 86 โจทก์จึงต้องห้ามมิให้นำภาษีซื้อตามใบกำกับภาษีซึ่งออกโดยห้างฯ ทั้งสองมาหักในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มตามประมวลรัษฎากร มาตรา 82/5(5) |