เมนูปิด

คำพิพากษาฎีกาที่3665/2540 
นายสุบิน ปิ่นขยัน โจทก์

กรมสรรพากร

จำเลย
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ประมวลรัษฎากร มาตรา 19, 23,, 39, 40(8), 49, 56, 57 ตรี

การตรวจสอบและประเมินภาษีอากรโดยวิธีพิเศษตามมาตรา 49 เจ้าพนักงานประเมินต้องทำการตรวจสอบไต่สวนโดยวิธีปกติ ตามมาตรา 19 และ 23 จนไม่อาจทราบได้ว่าผู้มีเงินได้มีรายได้ และรายจ่ายที่แท้จริงเพียงใด โดยต้องขออนุมัติอธิบดีกำหนดเงินได้สุทธิ และต้องตรวจสอบหามูลค่าทรัพย์สินสุทธิต้นปี และมูลค่าทรัพย์สินสุทธิปลายปี แล้วหาผลต่างระหว่างมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ณ วันต้นปีและวันสิ้นปี บวกด้วยค่าใช้จ่ายที่ไม่เกี่ยวกับการหารายได้ หักด้วยเงินได้ที่ได้รับยกเว้น เงินได้สุทธินำไปคำนวณภาษีตามบัญชีอัตราภาษี
การตรวจสอบและประเมินภาษีอากรโดยวิธีปกติ ตามมาตรา 19 ถึงมาตรา 23 เป็นวิธีการตรวจสอบหาเงินได้พึงประเมินในรอบปี ว่าเข้าลักษณะเป็นเงินได้ประเภทใด ตาม ม. 40 (1) ถึง (8) หักค่าใช้จ่ายตามประเภทเงินได้ตาม ม. 42 .ทวิ ถึง 46 หักค่าลดหย่อนตาม ม. 47 เหลือเงินได้สุทธินำไปคำนวณภาษีตามบัญชีอัตราภาษี
กรณีของโจทก์ จำเลยตั้งคณะทำงานตรวจสอบภาษีอากรโดยวิธีปกติ โดยได้วิเคราะห์แบบแสดงรายการเสียภาษีของโจทก์และภริยา ขอหลักฐานเพิ่มเติมจากหน่ายราชการและหน่วยงานอื่น ได้ขออนุมัติออกหมายเรียก พบว่ามีบัญชีเงินฝากในนามแฝงโจทก์และภริยาเป็นจำนวนเงินสูงมาก โจทก์อ้างว่าเป็นบัญชีกิจการร่วมค้าเพื่อซื้อที่ดินและพัฒนาที่ดินของภริยา แต่โจทก์และบุคคลที่อ้างไม่สามารถชี้แจงหรือให้ข้อมูลที่ชัดเจน ส่วนการถือหุ้นในบริษัทต่าง ๆ ตามหลักฐานผู้ถือหุ้นคือภริยาโจทก์ ระบุชำระค่าหุ้นเต็มจำนวน แต่โจทก์และภริยาระบุไม่ได้ว่าเงินค่าหุ้นได้มาด้วยวิธีใด จึงถือว่าเงินฝากในบัญชีนามแฝงและผลประโยชน์ ตลอดจนเงินค่าหุ้นในบริษัทเป็นเงินได้ ตาม ม. 40 (8) นำมาหักค่าใช้จ่าย ค่าลดหย่อน เหลือเงินได้สุทธินำไปคำนวณภาษี เมื่อโจทก์และภริยาอยู่ร่วมกันตลอดปีภาษี โจทก์จึงต้องรับผิดเสียภาษีอากรตาม ม. 57 ตรี ถือได้ว่าเป็นการตรวจสอบและประเมินภาษีอากรโดยวิธีปกติ ตาม ม. 19 ถึง ม. 23 โดยชอบด้วยกฎหมาย มิใช่การตรวจสอบและประเมินภาษีอากรโดยวิธีพิเศษตาม ม . 49 แต่อย่างใด

 

ปรับปรุงล่าสุด: 07-02-2021