เมนูปิด

คำพิพากษาฎีกาที่2604/2540  
นายศราวุธ สมนึกโจทก์

บริษัท ไทยทนุอุตสาหกรรมคอนกรีต จำกัด

จำเลย
เรื่อง บังคับรื้อถอนและขนย้ายทรัพย์สินออกพร้อมส่งมอบที่ดินโฉนด
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ประมวลรัษฎากร มาตรา 118

แพ่ง เจ้าของรวม (มาตรา 1359)

วิธีพิจารณาความแพ่ง อำนาจฟ้อง มอบอำนาจ (มาตรา 55, 60)40 (4) (ก), 70

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน 766,000 บาท และค่าเสียหาย เดือนละ 766,000 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยจะรื้อถอนทรัพย์สิน และขนวัสดุต่าง ๆ รวมทั้งฐานราก พื้นซีเมนต์ อิฐหัก กากปูนออกไปและ ส่งมอบที่ดินที่เช่าแก่โจทก์ในสภาพเรียบร้อย ห้ามจำเลยเกี่ยวข้องกับที่ดิน ที่เช่าอีก จำเลยให้การว่า เจ้าของกรรมสิทธิ์รวมคนอื่นไม่ได้มอบอำนาจให้โจทก์ ฟ้องคดีหนังสือมอบอำนาจมิได้ปิดอากรแสตมป์ตามกฎหมาย ขอให้ยกฟ้อง ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยรื้อถอนและขนย้ายทรัพย์สิน ออกพร้อมส่งมอบที่ดินโฉนดเลขที่ 23081 ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ในสภาพเรียบร้อยแก่โจทก์ ห้ามจำเลยเกี่ยวข้องอีก และให้ชำระค่าเสียหายเดือนละ 25,000 บาท นับแต่วันที่ 4 มิถุนายน 2536 เป็นต้นไปจนกว่าจำเลยจะออกและส่งมอบหรือโจทก์ได้เข้าครอบครองที่ดิน พิพาท โจทก์และจำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชำระค่าเสียหายแก่ โจทก์เดือนละ 67,500 บาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษา ศาลชั้นต้น

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้ตามที่โจทก์และจำเลย มิได้โต้แย้งในชั้นนี้ว่า โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินโฉนดเลขที่ 23081 ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ร่วมกับนาย อำนาจ สมนึก นายนิพนธ์ สมนึก นางสาวละออ แจ้งสว่าง หรือนางละออ พระวิเชนทร์ นางสาวรำพึง สมนึกหรือนางรำพึง ทศคุย และนางแสงเดือน มุสิกรรมณี จำเลยเช่าที่ดินบางส่วนของโฉนดดังกล่าวเป็นเนื้อที่ 4 ไร่ 2 งาน มีกำหนด 3 ปี นับแต่วันที่ 4 มิถุนายน 2533 ถึงวันที่ 3 มิถุนายน 2536 ค่าเช่าปีละ 200,000 บาท เมื่อครบกำหนดแล้วโจทก์บอกกล่าวให้จำเลย ออกจากที่ดินพิพาท จำเลยเพิกเฉย คดีมีประเด็นต้องวินิจฉัยตามฎีกาของ จำเลยข้อแรกว่า ที่ดินพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์และบุคคลอื่นอีก 5 คน เจ้าของกรรมสิทธิ์ทุกคนมีความรับผิดชอบและผลประโยชน์ในที่ดินพิพาท เท่ากัน การใช้สิทธิทางศาลของเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมคนใดคนหนึ่งจะกระทำ โดยลำพังมิได้ ต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมคนอื่นก่อน เมื่อหนังสือมอบอำนาจของเจ้าของกรรมสิทธิรวมคนอื่นที่ มอบอำนาจให้โจทก์ ดำเนินคดีมิได้ปิดอากรแสตมป์ การมอบอำนาจย่อมรับฟังเป็นพยานหลักฐาน ไม่ได้ และนางละออ พระวิเชนทร์ นางรำพึง ทศคุย กับนางแสงเดือน มุสิกรรมณีต่างเป็นหญิงมีสามี บุคคลดังกล่าวมิได้รับความยินยอมจากสามี ในการมอบอำนาจให้โจทก์ดำเนินคดีนี้โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องนั้น เห็นว่า ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1359 ให้อำนาจเจ้าของ รวมคนใดคนหนึ่งใช้สิทธิอันเกิดแต่กรรมสิทธิครอบไปถึงทรัพย์สินทั้งหมด การใช้สิทธิดังกล่าวรวมถึงการใช้สิทธิทางศาลด้วย ปรากฏว่าโจทก์เป็นเจ้า ของรวมคนหนึ่งในที่ดินพิพาท โจทก์แต่ผู้เดียวย่อมมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลย ออกจากที่ดินพิพาทโดยไม่จำต้องได้รับมอบอำนาจให้ฟ้องคดีจากเจ้าของ รวมคนอื่นแต่อย่างใด ดังนั้น หนังสือมอบอำนาจตามฟ้องจะปิดอากร แสตมป์หรือไม่ และนางละออ นางรำพึง กับนางแสงเดือนจะมอบอำนาจ ให้ฟ้องคดีโดยได้รับความยินยอมจากสามีหรือไม่ จึงมิใช่สาระสำคัญจัก ต้องวินิจฉัย โจทก์มีอำนาจฟ้อง ฎีกาของจำเลย ข้อนี้ฟังไม่ขึ้น..."

พิพากษายืน (วิรัตน์ ลัทธิวงศกร - วินัย วิมลเศรษฐ - บุญศรี แก้วสาร)

 

ปรับปรุงล่าสุด: 07-02-2021