เมนูปิด

คำพิพากษาฎีกาที่5755/2539 
บริษัท เงินทุนเอราวัณทรัสต์ จำกัด โจทก์

กรมสรรพากร

จำเลย
เรื่อง ภาษีธุรกิจจากการขายหรือถูกเวนคืน
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ประมวลรัษฎากร ภาษีธุรกิจเฉพาะ (มาตรา 91/2 (6), 91/6 (3)) พ.ร.ฎ.ออกตามความใน ป.รัษฎากร ว่าด้วยการขายอสังหาริมทรัพย์ฯ (ฉบับที่ 244)ฯ อสังหาริมทรัพย์ที่มีไว้ในการประกอบกิจการ (มาตรา 3 (5))

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นสถาบันการเงินประกอบธุรกิจเงินทุน โจทก์มีรายได้จากการขายที่ดินพร้อมไม้ยืนต้นให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย เพื่อสร้างทางพิเศษระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนโดยการถูกเวนคืน ไม่ใช่การขายที่เป็นทางค้าหรือหากำไร จึงไม่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ การประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของเจ้าพนักงานที่โจทก์เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ เบี้ยปรับ เงินเพิ่มและภาษีบำรุงเทศบาลจากรายได้ดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้เพิกถอนการประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ดังกล่าว

จำเลยให้การว่า รายได้จำนวน 190,160,450 บาท ที่โจทก์ได้มาจากการขายที่ดินพร้อมไม้ยืนต้นให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทยนั้น เป็นการขายอสังหาริมทรัพย์ที่มีไว้ในการประกอบกิจการ จึงเป็นการขายเป็นทางค้าหรือหากำไรจะต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะตามมาตรา 91/2 (6) แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบพระราชกฤษฎีกา(ฉบับที่ 244) พ.ศ.2534 มาตรา 3 (5) ไม่ใช่เป็นการขายที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ตามพระราชกฤษฎีกา (ฉบับที่ 244) พ.ศ. 2534 มาตรา 3 (6) โจทก์มิได้นำรายรับดังกล่าวไปสำแดงเสียภาษีธุรกิจเฉพาะโจทก์จึงต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ เบี้ยปรับ และเงินเพิ่ม การประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์จึงชอบแล้ว ขอให้ยกฟ้อง

ศาลภาษีอากรกลางพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์

โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ววินิจฉัยว่า "มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ว่า การประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ดังกล่าวชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ปัญหาดังกล่าวนี้ข้อสำคัญอยู่ที่ว่า ที่ดินและต้นไม้ในที่ดินอันเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่โจทก์ขายไปนั้น เป็นทรัพย์ที่โจทก์มีไว้ในการประกอบกิจการหรือไม่ เพราะหากเป็นการขายอสังหาริมทรัพย์ที่ผู้ขายมีไว้ในการประกอบกิจการแล้ว พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นทางค้าหรือหากำไร(ฉบับที่ 244) พ.ศ.2534มาตรา 3 (5) ได้กำหนดให้เป็นการขายที่เป็นทางค้าหรือหากำไรตามมาตรา 91/2(6) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งอยู่ในบังคับต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะตามบทบัญญัติในหมวด 5 ว่าด้วยภาษีธุรกิจเฉพาะ ผู้ขายต้องมีหน้าที่เสียภาษีธุรกิจเฉพาะในอัตราร้อยละ 3 ของรายรับ ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 91/6 (3) ในปัญหาที่ว่า อสังหาริมทรัพย์ที่โจทก์ขายไปนั้นเป็นทรัพย์ที่โจทก์มีไว้ในการประกอบกิจการหรือไม่นี้ โจทก์นำสืบว่าโจทก์ซื้อที่ดินทั้งสามแปลงไว้จากการขายทอดตลาดโดยคำสั่งศาลเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2530 ซึ่งเป็นที่ดินที่โจทก์รับจำนองไว้ในลำดับที่ 2 ตามหลักฐานในโฉนดที่ดินเอกสารหมาย จ.2 แผ่นที่ 30 ถึงแผ่นที่ 49 ซื้อแล้วโจทก์ปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้ใช้ทำประโยชน์ ต่อมามีพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนในท้องที่เขตพระโขนง...เขตดุสิต...และเขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร พ.ศ.2530 เพื่อสร้างทางพิเศษระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน ซึ่งที่ดินทั้งสามแปลงอยู่ในแนวเขตเวนคืนนี้ตามที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทยได้ขอเข้าสำรวจกับมีหนังสือแจ้งให้โจทก์ไปทำสัญญาเพื่อรับเงินค่าทดแทนตามเอกสารหมาย จ.2 แผ่นที่ 9 ถึง 11 โจทก์จึงได้ขายที่ดินดังกล่าวให้แก่การทางพิเศษแห่งประเทศไทยไปตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนที่ดิน พ.ศ.2530 ในราคา 190,160,450 บาท โจทก์มิได้ดำเนินการขายไปโดยสมัครใจหรือตามวัตถุประสงค์ในการประกอบกิจการของโจทก์โดยปกติเพื่อมุ่งในทางค้าหรือหากำไร ฝ่ายจำเลยนำสืบว่า โจทก์ประกอบกิจการเงินทุน โดยจัดหาเงินทุนจากประชาชน แล้วให้กู้ยืมโดยมีหลักทรัพย์จำนองเป็นประกัน การที่โจทก์ซื้อที่ดินที่รับจำนองไว้ในลำดับที่ 2 ก็เพื่อเอาไว้จำหน่ายเอาเงินชำระหนี้จำนองดังที่โจทก์แสดงรายละเอียดไว้ในงบดุลปี 2534 ตามเอกสารหมาย ล.1 แผ่นที่ 273 เกี่ยวกับทรัพย์สินรอการขาย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2534 ไว้สองรายการ คือ ก. ที่ดิน 1 แปลง เนื้อที่ 5 ไร่ 4 ตารางวา ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร โจทก์ได้รับโอนมาจากลูกหนี้กู้ยืมแทนการชำระหนี้ โดยบันทึกในบัญชีทรัพย์สินรอการขายด้วยจำนวนเงินเท่ากับยอดหนี้ 31.67 ล้านบาท ซึ่งบริษัทรับจ้างประเมินราคาได้ประเมินราคาไว้ว่าไม่มีมูลค่าจะประเมินได้ โจทก์ได้ตั้งจำนวนกันไว้เพื่อการลดค่าเพียง 7.35 ล้านบาท ข. ที่ดิน 16 แปลง รวมเนื้อที่ 63 ไร่ ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร โจทก์ได้รับโอนมาจากการประมูลขายทอดตลาดของศาลในปี 2530 บันทึกบัญชีตามราคาที่ซื้อมา 176.65 ล้านบาท ฉะนั้นที่ดินที่โจทก์ซื้อมาเพื่อขายเอาเงินชำระหนี้จำนองดังกล่าวจึงเป็นทรัพย์สินที่โจทก์มีไว้ในการประกอบกิจการพิเคราะห์แล้วเห็นว่า โจทก์ประกอบกิจการเงินทุน จัดหาเงินทุนจากประชาชนมาให้กู้ยืมโดยจำนองที่ดินเป็นประกันโจทก์มีสิทธิได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์จากการชำระหนี้การประกันการให้กู้ยืมเงิน หรือการซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่รับจำนองไว้จากการขายทอดตลาดโดยคำสั่งศาลหรือเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ แต่ต้องจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวภายในสามปีนับแต่วันที่อสังหาริมทรัพย์ตกมาเป็นของโจทก์หรือภายในกำหนดเวลากว่านั้น ตามที่ได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย ดังที่พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ พ.ศ.2522 มาตรา 20 (2) (ข) บัญญัติไว้ทั้งนี้ก็เพื่อให้ได้เงินคืนมาชำระหนี้จำนองและหนี้ที่โจทก์จัดหาทุนมาจากประชาชนกับเป็นกำไรของโจทก์อีกส่วนหนึ่งนั่นเอง วิธีดังกล่าวเป็นธุรกิจปกติของโจทก์ ดังนั้นการที่โจทก์ได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์จากการขายทอดตลาดโดยคำสั่งศาลตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวจึงเป็นการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์เพื่อมีไว้ในการประกอบกิจการการที่โจทก์ขายที่ดินดังกล่าวให้แก่การทางพิเศษแห่งประเทศไทยไป จึงเป็นการขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางค้าหรือหากำไร ตามมาตรา 91/2 (6) แห่งประมวลรัษฎากรดังที่พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นทางค้าหรือหากำไร(ฉบับที่ 244) มาตรา 3 (5) กำหนดไว้ โจทก์จึงต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะในอัตราร้อยละ 3 ของรายรับ ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 91/6 (3) เมื่อโจทก์ไม่ได้นำรายรับดังกล่าวไปสำแดงเพื่อเสียภาษีธุรกิจเฉพาะการที่เจ้าพนักงานประเมินทำการประเมินให้โจทก์เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ภาษีบำรุงเทศบาล เบี้ยปรับ และเงินเพิ่ม และคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์วินิจฉัยให้ยืนตามการประเมินแต่ให้งดเบี้ยปรับ และลดภาษีบำรุงเทศบาลลงให้จำนวน 228,192 บาท จึงชอบแล้วกรณีนี้เจ้าพนักงานประเมินมิได้อ้างว่า โจทก์ขายอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่เข้าลักษณะตาม (1) (2) (3) (4) หรือ (5) ที่ได้กระทำภายใน 5 ปี นับแต่วันที่ได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์เข้าลักษณะตาม (6) ของมาตรา 3 แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นทางค้าหรือหากำไร (ฉบับที่ 244) ดังนั้นการที่โจทก์ยกข้ออ้างว่า การที่โจทก์ขายอสังหาริมทรัพย์ของโจทก์นั้นเป็นการขายหรือถูกเวนคืนตามกฎหมายว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์จึงไม่เป็นสาระแก่การวินิจฉัย ศาลภาษีอากรกลางพิพากษายกฟ้องโจทก์ชอบแล้วอุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น"

พิพากษายืน

(สุนพ กีรติยุติ - ชลอ บุณยเนตร - จำลอง สุขศิริ)

 

 

ปรับปรุงล่าสุด: 07-02-2021