คำพิพากษาฎีกาที่ 6705/2537 | |
ห้างหุ้นส่วนจำกัด โรงสีสหเจริญบุรีรัมย์ | โจทก์ |
กรมสรรพากรกับพวก | จำเลย |
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ประมวลรัษฎากร มาตรา 16, 20, 65, 65 ทวิ, 71 (2) | |
สรรพากรจังหวัดบุรีรัมย์ออกหมายเรียกตามประมวลรัษฎากร เพื่อตรวจสอบภาษีอากรของโจทก์ ต่อมาสำนักงานสรรพากรจังหวัดบุรีรัมย์โอนสำนวนการตรวจสอบไปยังสำนักงานสรรพากรเขต 3 เจ้าพนักงานประเมินภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับท้องที่สรรพากรเขต 3 ซึ่งมีตำแหน่งเป็นสรรพากรเขต 3 จึงมีอำนาจประเมินภาษีเงินได้นิติบุคคล และแจ้งการประเมินไปยังโจทก์ โจทก์ประกอบธุรกิจขายข้าวเปลือก ขายข้าวสาร และขายวัตถุพลอยได้จากการสีข้าว(รำข้าว) ปรากฏว่าโจทก์ลงบัญชียอดซื้อข้าวเปลือกสูงเกินความเป็นจริงมาก จัดทำบัญชีเงินสดมีพิรุธ และไม่ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบภาษีอากร พยานหลักฐานรับฟังได้ว่าโจทก์ไม่ได้ซื้อข้าวเปลือกมาสีเองทั้งหมด เชื่อว่ามีการซื้อข้าวสารและวัตถุพลอยได้จากการสีข้าวจากที่อื่นมาขายด้วย แต่โจทก์ลงรายการบัญชีว่าซื้อข้าวเปลือกมาสีเอง เพื่อเพิ่มต้นทุนการผลิตทำให้โจทก์เสียภาษีน้อยลง การที่เจ้าพนักงานประเมินคำนวณหาต้นทุนการผลิต โดยถือว่ายอดรายรับตามที่โจทก์ยื่นแสดงรายการไว้เป็นยอดที่ถูกต้อง หักด้วยรายรับการขายข้าวเปลือก การขายข้าวสาร และวัตถุพลอยได้จากการสีข้าวเอง ที่เหลือถือว่าเป็นรายรับจากการขายข้าวสารและวัตถุพลอยได้ที่โจทก์ซื้อมา แล้วคำนวณหาต้นทุนของแต่ละประเภท จึงได้ต้นทุนการผลิตของโจทก์ทั้งหมด นำจำนวนเงินที่ได้ไปหักจากรายรับ ถือว่ามีกำไร เมื่อคำนวณภาษีและเงินเพิ่ม แล้วประเมินภาษี จึงเป็นการคิดคำนวณและการประเมินภาษีอากรที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว |