เมนูปิด

คำพิพากษาฎีกาที่4011/2536

 

บริษัท อี๊สต์เอเชียติ๊ก จำกัด

โจทก์

กรมสรรพากร

จำเลย

กฎหมายที่เกี่ยวข้องประมวลรัษฎากร มาตรา 65 ตรี (13)

โจทก์ทำสัญญาโอนขายทรัพย์สินหนี้สินและกิจการของโจทก์ โดยทรัพย์สินที่ขายรวมทั้งหนี้สินของลูกหนี้การค้าทั่วไปของโจทก์ด้วย ตามสัญญาดังกล่าวได้กำหนดว่า โจทก์ต้องชดใช้หนี้สูญ คือ หนี้ที่โอนแล้วผู้รับโอนเรียกเก็บไม่ได้ภายใน 4 สัปดาห์ นับจากวันที่ตกลงกัน ดังนี้ รายจ่ายส่วนลดหนี้ที่สงสัยว่าจะสูญ อันเป็นรายจ่ายส่วนลดในการขาย (โอน) ลูกหนี้การค้าทั่วไปที่สงสัยว่าจะสูญ เนื่องจากผู้รับโอนเรียกเก็บเงินตามเวลาจากลูกหนี้ที่รับโอนไม่ได้ ซึ่งโจทก์เป็นผู้ออกใบลดหนี้ของลูกหนี้การค้าทั่วไปที่สงสัยว่าจะสูญให้แก่ผู้รับโอนตามสัญญาดังกล่าว การลดหนี้รายนี้จึงเป็นการปฏิบัติตามข้อผูกพันในสัญญา มิใช่การจำหน่ายหนี้สูญ จึงเป็นรายจ่ายเพื่อหากำไรหรือเพื่อกิจการโดยเฉพาะ สำหรับรายจ่ายส่วนลดหนี้ที่สงสัยว่าจะสูญหนี้ แม้จะมีการตกลงให้ส่วนลดสำหรับหนี้ที่เรียกเก็บไม่ได้เพิ่มเติม อีกทั้งตกลงหลังจากทำสัญญาโอนขายทรัพย์สิน หนี้สิน และกิจการของโจทก์ถึงปีเศษ ก็เป็นเรื่องปกติธรรมดาในทางการค้า เพราะผู้รับโอนต้องใช้เวลาในการติดตามหนี้สินก่อนจึงจะทราบแน่ชัดว่าหนี้รายใดเรียกเก็บไม่ได้ เมื่อโจทก์ให้ส่วนลดสำหรับลูกหนี้การค้าทั่วไป เป็นการปฏิบัติตามข้อผูกพันในสัญญา จึงเป็นรายจ่ายที่โจทก์ได้จ่ายไปเพื่อหากำไรหรือเพื่อกิจการโดยเฉพาะ โจทก์จึงนำมาหักเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อการคำนวณกำไรสุทธิได้
รายจ่ายส่วนลดค่าเช่าซื้อ อันเป็นรายจ่ายส่วนลดในการขาย (โอน) ลูกหนี้เช่าซื้อที่โจทก์ลดให้แก่ผู้รับโอน สำหรับการโอนลูกหนี้ตามสัญญาเช่าซื้อ โดยคำนวณส่วนลดร้อยละ 12 นั้น ส่วนลดดังกล่าวมีการคิดส่วนลดเป็นการเหมาจากราคาค่าเช่าซื้อทั้งหมด เนื่องมาจากโจทก์เลิกกิจการ จึงไม่ต้องคำนึงว่ามีหนี้ค่าเช่าซื้อบางส่วนที่ถึงกำหนดชำระแล้วหรือไม่ เพราะสิทธิเรียกร้องตามสัญญาเช่าซื้อเป็นหนี้ที่ค้างชำระและเป็นหนี้ที่จะถึงกำหนดในอนาคต ส่วนลดนี้จึงเป็นรายจ่ายเพื่อหากำไรหรือเพื่อกิจการโดยเฉพาะ โจทก์นำมาเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิได้

 

ปรับปรุงล่าสุด: 07-02-2021