คำพิพากษาฎีกาที่3793/2534 |
|
บริษัท กรุงเทพชลกิจ จำกัด | โจทก์ |
กรมสรรพากรกับพวก | จำเลย |
กฎหมายที่เกี่ยวข้องป.รัษฎากร มาตรา 30, ประเภทการค้า 11 (ค้าอสังหาริมทรัพย์) | |
การที่โจทก์นำสืบว่า ผู้รับมอบอำนาจโจทก์แจ้งต่อเจ้าพนักงานของจำเลย ว่าโจทก์ขายที่ดินไปโดยมิได้มุ่งในทางการค้าที่ดิน แต่เจ้าพนักงานแจ้งว่าการขายที่ดินของโจทก์ ถือว่าประกอบการค้าที่ดินและให้โจทก์เสียภาษีการค้า ผู้รับมอบอำนาจโจทก์ไม่ยินยอมเสียภาษีและจะอุทธรณ์ต่อไป แต่เจ้าพนักงานให้ผู้รับมอบอำนาจโจทก์ลงชื่อไว้ในช่องผู้ให้ถ้อยคำ โดยแจ้งว่าให้ลงชื่อไปก่อน เพราะเป็นระเบียบของกรมสรรพากรว่าต้องมีหลักฐานไว้เพื่อตรวจสอบ ส่วนการอุทธรณ์จะอุทธรณ์ในภายหลังย่อมทำได้ ผู้รับมอบอำนาจโจทก์จึงลงชื่อไว้พร้อมกับแจ้งด้วยว่าจะอุทธรณ์การประเมิน ดังนี้ ตามข้อนำสืบหรือข้ออ้างของโจทก์เท่ากับอ้างว่าผู้รับมอบอำนาจโจทก์มิได้มีเจตนาที่จะยินยอมเสียภาษีการค้า หรือเจตนาลงชื่อทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับเจ้าพนักงานของจำเลย เอกสารดังกล่าวจึงใช้ไม่ได้ ซึ่งเป็นการนำสืบหักล้างเอกสาร มิใช่นำสืบแก้ไขเปลี่ยนแปลงเอกสาร ไม่ต้องห้ามตาม ป. วิ. พ. มาตรา 94 ประกอบด้วย พ.ร.บ. จัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ. 2528 มาตรา 17 |