คำพิพากษาฎีกาที่3892/2533 |
|
นางอำคา วรรณไชย | โจทก์ |
นายผันหรือพันทอง พลหงษ์ | จำเลย |
เรื่อง โอนสิทธิครอบครอง |
|
กฎหมายที่เกี่ยวข้องแพ่ง โอนสิทธิครอบครอง (ม.1377,1378) พระราชบัญญัติ ประมวลรัษฎากร (ม.118) | |
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ขับไล่โจทก์ออกจากที่พิพาทตาม น.ส. 3 ก เลขที่ 329 เนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ 79 ตารางวา ราคาประมาณ 10,000 บาท ซึ่งโจทก์เป็นเจ้าของและครอบครองอยู่ โดยจำเลยอ้างว่าจำเลยได้ ซื้อที่ดินดังกล่าวมาจากโจทก์ การกระทำของจำเลยเป็นการรบกวนสิทธิ ของโจทก์โดยปกติสุข จึงขอให้มีคำสั่งว่า ที่ดินพิพาทตาม น.ส. 3 ก ทะเบียนเลขที่ 293 เล่ม 3 ข. หน้า 43 เลขที่ดิน 225 เป็นของโจทก์ ห้ามจำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้องหรือแสดงสิทธิในที่ดินของโจทก์ จำเลยให้ ห้ามจำเลยและบริวารเข้าเดี่ยวหรือแสดงสิทธิในที่ดินของโจทก์ จำเลยให้ การฟ้องแย้งว่า ที่ดินพิพาทเป็นของจำเลย จำเลยซื้อจากโจทก์และสามี โจทก์เมื่อเดือนธันวาคม 2524 ราคา 30,000 บาท ซึ่งมีบ้านอยู่ 1 หลัง จำเลยได้ชำระครบถ้วนแล้โจทก์และสามีโจทก์ได้มอบโอนบ้านและที่ดินให้ เป็นกรรมสิทธ์ของจำเลย จำเลยได้ครอบครองตลอดมาจนถึงปัจจุบันเกิน 1 ปีแล้ว ที่ดินและบ้านเป็นของจำเลย โจทก์ไม่ได้ครอบครองที่ดินพิพาท การ ที่จำเลยบอกกล่าวขับไล่โจทก์ไม่เป็นการรอบกวนสิทธิครอบครองของโจทก์ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง เมื่อโจทก์ฟ้องขอให้ศาลสั่งแสดงสิทธิในที่ดินพิพาท จึงถือว่าโจทก์รบกวนสิทธิครอบครองของจำเลย และเป็นการโต้แย้งสิทธิ จำเลย จำเลยจึงขอฟ้องแย้งว่าที่ดินพิพาทเป็นของจำเลยขอให้ยกฟ้องโจทก์ และพิพากษาว่า ที่ดินพิพาทเป็นของจำเลยห้ามมิให้โจทก์และบริวารเข้า เกี่ยวข้อง หรือแสดงสิทธิในที่ดินดังกล่าวต่อไป ให้โจทก์โอนใส่ชื่อจำเลยลงใน น.ส. 3 ก. ดังกล่าว ถ้าโจทก์ไม่กระทำก็ให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลเป็น การแสดงเจตนาของโจทก์ โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า โจทก์ไม่เคยขายทีดิน ให้จำเลย และไม่เคยมอบการครอบครองที่ดินพิพาท ทั้งตามประมวลกฎหมาย ที่ดินซึ่งเป็นกฎหมายพิเศษบังคับว่า การโอนสิทธิครอบครองที่ดินซึ่งมี หนังสือรับรองการทำประโยชน์นั้นถ้าไม่ได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียน ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ การโอนย่อมเป็นโมฆะ ดังนี้จึงนำประมวลกฎหมาย แพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1378 มาใช้บังคับหาได้ไม่ ดังนั้นหากโจทก์ ได้มอบการครอบครองที่ดินพิพาทให้จำเลยจริง จำเลยก็ไม่มีสิทธิในที่ดิน พิพาท จำเลยไม่มีอำนาจฟ้องแย้ง ขอให้ยกฟ้องแย้งจำเลย ศาลชั้นต้น พิพากษายกฟ้องโจทก์ ให้โจทก์โอนใส่ชื่อจำเลยใน น.ส. 3 ก หมายเลข 1 ในกำหนด 30 วัน หากไม่ปฏิบัติให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลเป็นการ แสดงเจตนาแทนจำเลย (น่าจะหมายถึงโจทก์) ห้ามโจทก์และบริวารเข้า เกี่ยวข้อในที่ดินพิพาทตั้งแต่วันอ่านคำพิพากษาเป็นต้นไป โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกคำขอของจำเลยที่ขอให้โจทก์โอนชื่อ ทางทะเบียนใน น.ส. 3 ก. เลขที่ 29. ให้จำเลยเสีย นอกจากที่แก้ให้เป็น ไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น โจทก์ จำเลย ฎีกา |