เมนูปิด

คำพิพากษาฎีกาที่ 2195/2532 
ห้างหุ้นส่วนจำกัด วี.วรสินโจทก
กรมสรรพากรจำเลย
กฎหมายที่เกี่ยวข้องประมวลรัษฎากร มาตรา 69, 71, 72
ในกรณีที่ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเลิกกันเพื่อประโยชน์ในการคำนวณภาษีประมวลรัษฎากร มาตรา 72 วรรคสอง ให้ถือว่าวันที่เจ้าพนักงานรับจดทะเบียนเลิกเป็นวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี เมื่อเจ้าพนักงานรับจดทะเบียนเลิกห้างโจทก์ในวันที่ 10 เมษายน 2524 จึงต้องถือว่าวันที่ 10 เมษายน 2524 เป็นวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี
โจทก์ไม่ยื่นรายการซึ่งจำเป็นต้องใช้ในการคำนวณภาษีภายใน 150 วัน นับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีตามที่บัญญัติไว้ในประมวลรัษฎากร มาตรา 69 เจ้าพนักงานประเมินย่อมมีอำนาจประเมินภาษีในอัตราร้อยละ 5 ของยอดรายรับก่อนหักรายจ่ายใดๆ ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 71 (1) แม้โจทก์ส่งมอบบัญชีและเอกสารในภายหลังตามที่เจ้าพนักงานประเมินออกหมายให้โจทก์ส่งก็หาทำให้อำนาจของเจ้าพนักงานประเมินตามมาตรา 71 (1) ดังกล่าวหมดสิ้นไปไม่
โจทก์อ้างว่ายอดรายรับที่เจ้าพนักงานประเมินนำมาคำนวณภาษีจากโจทก์ไม่ถูกต้อง โดยไม่มีใบเสร็จรับเงินมาให้ตรวจสอบ นอกจากนี้ผู้รับมอบอำนาจจากโจทก์ยังทำบันทึกข้อตกลงยินยอมชำระภาษีอากร เช่นนี้ จึงฟังได้ว่ายอดรายรับที่เจ้าพนักงานประเมินนำมาคำนวณภาษี จากโจทก์นั้นถูกต้องแล้ว
โจทก์อ้างว่าเจ้าพนักงานนำรายรับหลังจากวันที่ 10 เมษายน 2524 จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2524 มาประเมินภาษีจากโจทก์ไม่ได้เพราะโจทก์จดทะเบียนเลิกห้างฯ ในวันที่ 10 เมษายน 2524 นั้น พยานจำเลยเบิกความว่าเหตุที่พยานตรวจสอบและประเมินภาษีของ โจทก์จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2524 ก็เพราะบริษัทใหม่ที่รับช่วงกิจการของโจทก์ได้จดทะเบียนไว้เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2524 ประกอบกับหลักฐานที่ทางกรมทรัพยากรธรณีได้บันทึกไว้ปรากฏว่า การเสียค่าภาคหลวง ของโจทก์ก็บันทึกเป็นเดือนไม่ได้ระบุเป็นวันจึงต้องตัดบัญชีถึงวันสิ้นเดือน ข้ออ้างนี้มีเหตุผล ทั้งโจทก์มิได้โต้แย้งข้อเท็จจริงดังกล่าว นอกจากนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1249 แม้ห้างโจทก์จะเลิกกันแล้วก็ให้พึงถือ ว่ายังคงตั้งอยู่เท่าเวลาที่จำเป็นเพื่อการชำระบัญชี

 

ปรับปรุงล่าสุด: 31-01-2021