คำพิพากษาฎีกาที่ 3215-3218/2531 | |
บริษัท อุตสาหกรรมน้ำตาลกาญจนบุรี จำกัด | ์โจทก์ |
กรมสรรพากรกับพวก | จำเลย |
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ประมวลรัษฎากร บัญชี 1 หมวด 1 (7) ท้ายพระราชกฤษฎีกา (ฉบับที่ 54) พ.ศ. 2517 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 | |
โจทก์ชำระเงินค่าภาษีอากรที่จำเลยเรียกเก็บโดยอาศัยอำนาจตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ หาใช่เรียกเก็บโดยไม่มีมูลที่จะอ้างได้ตามกฎหมายไม่ จำเลยจะอ้างว่า โจทก์ทำตามอำเภอใจเพื่อชำระหนี้โดยรู้ว่าตนไม่มีความผูกพันที่จะต้องชำระอันเป็นลาภมิควรได้ ซึ่งมีอายุความ 1 ปี หาได้ไม่ โจทก์มีอำนาจฟ้องภายในอายุความ 10 ปี โจทก์ทำสัญญาขายน้ำตาลทรายดิบให้องค์การคลังสินค้า โดยมีเงื่อนไขให้โจทก์ปรับปรุงคุณภาพน้ำตาลดิบตามสัญญาให้มีความชื้นไม่เกินร้อยละ 0.4 หากพิจารณาตามสัญญาดังกล่าวแล้วจะเห็นได้ว่าน้ำตาลทรายที่พิพาทเป็นน้ำตาลทรายดิบ และในการส่งน้ำตาลทรายไปต่างประเทศนั้นตามหลักฐานการตรวจสอบของบริษัท โอเวอร์ซีนส์ เบอร์แซนไดส์ อินสเปคชั่น จำกัด ปรากฏว่าน้ำตาลทรายที่มีความชื่น 0.39 และ 0.37 ก็ยังถือเป็นน้ำตาลทรายดิบ นอกจากนี้ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมก็ระบุไว้ว่า น้ำตาลทรายขาวและน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์มีความชื่นไม่มากกว่าร้อยละ 0.1 ส่วนน้ำตาลทรายดิบที่มีความชื่นไม่มากกว่าร้อยละ 0.6 จากหลักฐานที่โจทก์นำสืบถือได้ว่า น้ำตาลทรายที่โจทก์ผลิตซึ่งมีความชื้นร้อยละ 0.4 เป็นน้ำตาลทรายดิบ |