โจทก์ขายที่ดินโฉนดเลขที่ 16300 และ 16301 ให้น้องชายโดยอ้างว่าเป็นการยกให้โดยเสน่หา แต่ได้ทำสัญญาซื้อขายเพื่ออำพรางนิติกรรมที่แท้จริงคือการให้ แต่ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์ขายที่ดิน 2 แปลงนี้ให้น้องชาย เมื่อโจทก์ไม่ได้แสดงรายการขายที่ดิน 2 แปลงดังกล่าวในแบบ ภ.ง.ด.9 ข้อ 10 เพื่อขอยกเว้นภาษีเงินได้ โจทก์จึงไม่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับการขายที่ดินตามประมวลรัษฎากรมาตรา 42(9) โจทก์ร่วมกับบริษัทเรือนทองก่อสร้าง จำกัด กับบุคคลอื่นซื้อที่ดินโฉนดเลขที่ 1193 มาทั้งโฉนด และได้ขายไปภายหลังจากที่ซื้อมาเพียง 1 ปีเศษ โดยซื้อมาในราคา 3,000,000.-บาท แต่ขายไปในราคา 14,800,000.-บาท ทั้งบริษัท เรือนทองก่อสร้าง จำกัด ก็มีวัตถุประสงค์ในการค้าบ้านจัดสรร และข้อเท็จจริงปรากฏจากการนำสืบว่าโจทก์ได้เคยซื้อที่ดินมา 4 แปลงแล้วปลูกสร้างอาคาร 27 คูหา จากนั้นก็ขายไปบางส่วน ซึ่งโจทก์ก็มิได้คัดค้าน การที่โจทก์ขายที่ดินแปลงดังกล่าวจึงเป็นการขายทรัพย์สินที่ได้มาโดยมุ่งในทางการค้าหรือหากำไร แม้โจทก์จะอ้างว่าขายที่ดินเพื่อนำเงินมาใช้ในการรักษาพยาบาลภริยา และใช้ในการศึกษาของบุตรก็หาทำให้โจทก์ได้รับการยกเว้นตามประมวลรัษฎากร มาตรา 42(9) ไม่ โจทก์ซื้อที่ดินมาโดยไม่ปรากฏว่าโจทก์ใช้ที่ดินแปลงนี้เป็นที่อยู่อาศัยหรือเพื่อประโยชน์อื่นใด และตามพฤติการณ์ที่โจทก์ซื้อขายที่ดินบ่อย ๆ ทั้งโจทก์ได้ถมที่ดินและวางท่อระบายน้ำ อันเป็นการปรับปรุงที่ดินด้วย ที่ดินที่ได้มาโดยมุ่งในทางการค้าหรือหากำไร เมื่อโจทก์ขายจึงต้องเสียภาษีเงินได้โดยถือราคาขายตามที่กรมที่ดินประเมินราคา |