คำพิพากษาฎีกาที่ 3336/2530 | |
กรมสรรพากร | โจทก์ |
บริษัท ศรีเชียงใหม่ จำกัด | จำเลย |
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 321 พระราชบัญญัติ จัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ. 2528 มาตรา 7 (4) | |
มูลหนี้ตามเช็คทั้งสองฉบับซึ่งจำเลยได้ชำระเป็นค่าภาษีการค้าและภาษีบำรุงเทศบาลให้แก่โจทก์นั้น เป็นการชำระหนี้อย่างอื่นแทนการชำระหนี้ด้วยเงิน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 321 วรรคหนึ่ง มิใช่เป็นการแปลงหนี้ใหม่ และการชำระหนี้ด้วยเช็คแทนการชำระหนี้ด้วยเงินนั้นต้องอยู่ในบังคับของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ 321 วรรคสาม เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คทั้งสองฉบับแล้วจำเลยก็ไม่นำเงินตามเช็คทั้งสองฉบับไปชำระให้โจทก์ มูลหนี้ซึ่งเป็นค่าภาษีอากรจึงยังไม่ระงับสิ้นไปโจทก์มีสิทธิเรียกร้องตามมูลหนี้เดิมได้ และเนื่องจากมูลหนี้เดิมเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ตามข้อผูกพันซึ่งได้ทำขึ้นเพื่อประโยชน์แก่การจัดเก็บภาษีอากร จึงอยู่ในอำนาจของศาลภาษีอากรกลางที่จะพิจารณาพิพากษาตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร ผู้ที่ขอผ่อนชำระภาษีอากรตามประกาศกระทรวงการคลัง เรื่องขยายเวลายื่นรายการการชำระหรือนำส่งภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2528 นอกจากจะต้องชำระค่าภาษีอากรแล้วจะต้องเสียเงินเพิ่มในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อเดือน นับแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2528 จนถึงวันชำระเงินนั้น จะต้องเป็นผู้ที่ชำระภาษีอากรงวดสุดท้ายให้เสร็จสิ้นภายในเดือนพฤศจิกายน 2528 ถ้ามิได้ชำระให้เสร็จสิ้นภายในกำหนดดังกล่าวผู้นั้นก็หมดสิทธิที่จะได้รับประโยชน์ในการชำระเงินเพิ่มนับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2528 จนถึงวันชำระเงิน จำเลยออกเช็คสั่งจ่ายเงินชำระค่าภาษีอากรงวดที่ 2 และ 3 ลงวันที่ล่วงหน้าไว้ภายในเดือนพฤศจิกายน 2528 ก็ตาม แต่เมื่อเช็คทั้งสองงวดถึงกำหนดสั่งจ่ายธนาคารได้ปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คทั้งสองงวด โจทก์ไม่ได้รับเงินค่าภาษีอากรภายในเดือนพฤศจิกายน 2528 จำเลยจึงหมดสิทธิที่จะได้รับประโยชน์ในการชำระเงินเพิ่ม นับแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2528 จำเลยจึงต้องรับผิดชำระเงินเพิ่มนับตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2527 ซึ่งเป็นวันถัดจากวันสุดท้ายที่จำเลยมีสิทธิยื่นแบบแสดงรายการประจำเดือนพฤศจิกายน 2527 ภาษีบำรุงเทศบาลเป็นส่วนหนึ่งของภาษีการค้า เมื่อคำนวณภาษีบำรุงเทศบาลในอัตราร้อยละ 10 ของภาษีการค้าแล้วผลที่คำนวณได้ตามพระราชบัญญัติรายได้เทศบาล ให้ถือว่าเป็นภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร เมื่อไม่นำภาษีบำรุงเทศบาลไปชำระให้เสร็จสิ้นภายในกำหนดที่เจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งให้ทราบหรือกำหนดไว้ในประกาศกระทรวงการคลัง ถือว่าผู้นั้นผิดนัดและต้องเสียเงินเพิ่มตามที่บัญญัติไว้ในประมวลรัษฎากร |