คำพิพากษาฎีกาที่2219/19 | |
นายจินดา อุดมอักษรกับพวก | โจทก์ |
กรมสรรพากรกับพวก | จำเลย |
เรื่อง ยื่นรายการเสียภาษี | |
กฎหมายที่เกี่ยวข้องอุทธรณ์ฎีกา,อำนาจศาลอุทธรณ์,ประมวลรัษฎากร | |
เมื่อครั้งคดีนี้ขึ้นสู่ศาลฎีกาครั้งแรก ศาลฎีกาได้วินิจฉัยแล้วว่า จ.เจ้าพนักงานประเมินคนเดียวมีอำนาจประเมินภาษีเงินได้ของโจทก์ และ คำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์มีผลบังคับ ให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาประเด็นอื่นแล้วพิพากษาใหม่ ประเด็นเรื่องอำนาจประเมินของ จ. กับอำนาจวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์จึงยุติ โจทก์ฎีกาครั้งหลังอีกว่าไม่มีอำนาจประเมิน แม้จะยกเหตุต่างกัน ศาลฎีกาก็ไม่วินิจฉัยให้ห้างหุ้นส่วนมีวัตถุประสงค์ในการค้าทำการขายที่ดินในทางการค้าไม่ได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีเงินได้โจทก์ยื่นรายการเสียภาษีเงินได้ปี พ.ศ. 2499-2501 เจ้าพนักงานประเมินจังหวัดสงขลาได้มีหมายเรียกลงวันที่ 12 กันยายน 2501 เรียกโจทก์เพื่อไต่สวน ต่อมาโจทก์ย้ายภูมิลำเนามาอยู่ในจังหวัดพระนคร เจ้าพนักงานประเมินในจังหวัดสงขลา โอนเรื่องให้เจ้าพนักงานประเมินในเขตจังหวัดพระนครดำเนินการ จึงได้มีหมายเรียกฉบับลงวันที่ 9 มิถุนายน 2508 ถึงโจทก์ หมายเรียกฉบับหลังจึงเป็นหมายเรียกซ้ำ โจทก์จะอ้างว่าพึ่งออกหมายเรียกเมื่อพ้นกำหนด 5 ปีแล้วหาได้ไม่ เจ้าพนักงานประเมินจึงมีอำนาจ แก้จำนวนเงินที่ประเมินหรือที่ยื่นรายการไว้เดิมได้ แม้เจ้าพนักงานประเมินที่มีหมายเรียกโจทก์มาไต่สวนครั้งแรกจะมีความ1 เห็นว่า โจทก์ได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ก็ตาม กรมสรรพากรซึ่งมีอำนาจหน้าที่และควบคุมการจัดเก็บภาษีอากรตาม ป. รัษฎากร ก็มีอำนาจสั่งให้ประเมินใหม่ได้ | |